7 วิธีเพิ่มความสุขและประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อลดอัตราการลาออกของพนักงาน
คนจำนวนมากลาออกเนื่องจากไม่มีความสุขในการทำงาน และไม่เห็นโอกาสในการเติบโตในงานของตัวเอง ทำให้แรงจูงใจในการทำงานต่ำ ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานนอกจากนี้ งานวิจัยล่าสุดของ CEB บริษัทในวอชิงตัน ได้เผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในทุกๆรอบปีของการทำงาน พนักงานจะทบทวนการทำงานที่ผ่านมาของตัวเอง และเริ่มหางานใหม่ เมื่อพวกเขารู้สึกว่างานที่ทำอยู่ไม่ทำให้พวกเขามีความสุข และไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิตของพวกเขา
บริษัทจำนวนมาก ได้รับผลกระทบจากการสูญเสียพนักงานที่มีทักษะและความสามารถ วันนี้แพรมีบทความจิตวิทยาจาก entreprenuer.com ถึง 7 วิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงาน และทำให้พนักงานรู้สึกมีความสุขในการทำงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งมาจากการศึกษาของนักเศรษฐศาตร์เชิงพฤติกรรม และนักจิตวิทยา มาฝากกันค่ะ
1. ศึกษา Demographic ของพนักงาน
ฝ่ายบุคคลควรมีความเข้าใจถึงช่วงอายุของพนักงานของบริษัท เนื่องจากคนแต่ละวัยตอบสนองต่อวิธีการจูงใจที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น หากบริษัทมีจำนวนพนักงานที่เป็นกลุ่ม Millennials จำนวนมาก ก็อาจจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยเป็นเครื่องมือให้กับพวกเขาในการทำงาน หรือให้พวกเขาได้ทำงานจากที่บ้านได้บ้าง เป็นต้น
2. ชื่นชมผลงานของพนักงาน
มีการสำรวจในปี 2013 พบว่า 83% ของกลุ่มตัวอย่าง คิดว่า การได้รับคำชมเชยจากผลงานที่เกิดขึ้นมีคุณค่ามากกว่ารางวัลใดๆ Gallup ยังเปิดเผยข้อมูลอีกว่า พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น เมื่อพวกเขาได้รับการชมเชยต่อผลงานของพวกเขาสม่ำเสมอ และยังช่วยให้ประสิทธิภาพในการทำงานเป็นทีมดีขึ้นอีกด้วย ไม่เพียงเท่านี้ การชื่นชมผลงาน ยังมีผลให้พนักงานลาออกน้อยลง และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าอีกด้วย
3. ใช้ระบบเกมส์มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ในปัจจุบัน หลายบริษัทนำระบบเกมส์มาใช้ในการ feedback และ reward พนักงาน การผูกการวัดผลของงานอย่างชัดเจน และโปร่งใส รวมไปถึงการตอบสนองโดย feedback หรือ reward โดยทันที จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และทำให้พนักงานรู้สึกสนุกกับการทำงานมากยิ่งขึ้น เมื่อพวกเขารู้สึกสนุกกับงาน พวกเขาก็จะไม่อยากลาออก
4. สร้างคุณค่าให้กับงาน
ในปัจจุบัน การจูงใจพนักงานด้วยเงินอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากคนจำนวนมาก ต้องการที่จะทำงานที่มีความหมาย และเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดี
Deloitte University เผยแพร่ ‘Global Human Capital Trends 2016’ ว่า สิ่งที่ขับเคลื่อนการทำงานของพนักงานในปัจจุบัน ก็คือ คุณค่าของงานที่พวกเขาทำ เมื่อพวกเขารู้สึกว่าพวกเขากำลังทำสิ่งดีๆ พวกเขาจะรู้สึกมีส่วนร่วม ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดอัตราการลาออกอีกด้วย
บทความแนะนำ : 3 เทคนิคหางานที่รักด้วยตัวคุณเอง
5. สนับสนุนวิธีการมีส่วนร่วมที่ดี
การสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงาน เป็นหนึ่งในวิธีการสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน งานวิจัยของ Dale Carnegie เผยให้เห็นว่า การสร้างการมีส่วนร่วมมีความสำคัญมาก บริษัทที่พนักงานมีความรู้สึกมีส่วนร่วมสูง มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ถึง 202% และมีรายงานเผยให้เห็นว่า การที่พนักงานรู้สึกไม่มีส่วนร่วม ส่งผลต่อการลาออกทำให้บริษัทสูญเสียเงินกว่า 11 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐ การสร้างการมีส่วนร่วมสามารถทำได้ โดยสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนการสื่อสารอย่างเปิดกว้าง ยอมรับความคิดเห็นของพนักงาน ในการกำหนด vision และทิศทางขององค์กร เป็นต้น
6. ให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้
การสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน เช่น อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ จะช่วยสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน และลดค่าใช้จ่ายของสำนักงาน มีการศึกษาเผยให้เห็นว่า พนักงานที่ทำงานจากที่บ้าน มีประสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าคนที่ทำงานที่สำนักงานถึง 30%
7. สนับสนุนให้พนักงานหยุดพัก
มีการศึกษาพบว่า การหยุดพักจากการทำงานทุกๆ 52 นาที โดยพัก 17 นาที จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งเรียกว่า “perfect formula” อย่างไรก็ตาม เราอาจจะไม่ต้องทำตามตัวเลขที่ได้ทำการศึกษามาแบบเป๊ะๆ แต่การหยุดพักบ้าง ระหว่างการทำงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้
การรักษาพนักงานที่มีทักษะเป็นเรื่องสำคัญที่บริษัทควรให้ความสำคัญ เนื่องจากการลาออกส่งผลกระทบหลายด้านกับบริษัท ไม่ว่าจะเป็น ความราบรื่นในการทำงาน งบประมาณในการพัฒนาบุคลากร รวมไปถึงความรู้ต่างๆที่จะนำมาต่อยอดในการพัฒนาบริษัทให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ดังนั้น การใส่ใจในการสำรวจความต้องการของพนักงาน และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน รวมไปถึงวัฒนธรรมองค์กร เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสุข จึงเป็นเรื่องที่ผู้บริหารต้องพิจารณา
นักจิตวิทยาองค์กร ก็เป็นอีกหนึ่งคำตอบในการสำรวจและแนะนำ สำหรับวิธีการที่จะลดอัตราการลาออกและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ทำให้พนักงานมีความสุขในการทำงานและอยู่กับบริษัทไปนานๆ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
Comments