top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

Self-care ไม่ใช่ Selfish อย่ารู้สึกผิดที่จะแบ่งเวลาให้กับ “Me time”


ใช่คุณหรือไม่ที่มักจะรู้สึกผิดเมื่อต้องปฏิเสธคนอื่น และบ่อยครั้งคุณก็จัดลำดับความสำคัญโดยเอาตัวเองไว้ลำดับท้าย ๆ หากคำตอบคือ “ใช่” ข่าวดีคือมีผู้คนมากมายที่เป็นแบบเดียวกันกับคุณ ข่าวร้ายคือผู้คนกลุ่มนี้มักมีแนวโน้มในการเกิดปัญหาสุขภาพจิตโดยเฉพาะความเครียดและวิตกกังวลได้ง่าย ในบทความนี้ผู้เขียนจึงอยากให้คุณตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ (Self-care) และชวนทุกคนปรับมุมมองใหม่ไปด้วยกันว่าการใช้เวลาเพื่อตัวเองหรือที่เรียกว่า “Me time” นั้นเป็นคนละอย่างกันกับการเห็นแก่ตัว (Selfish)


Me time คืออะไรและมีประโยชน์ยังไง? 

Me time คือการให้ตัวเองได้อยู่กับปัจจุบันทั้งร่างกายและจิตใจอย่างมีสติเพื่อชาร์จพลัง โดยการใช้เวลากับ Me time นั้นไม่ได้มีสูตรสำเร็จเจาะจงว่าจะต้องทำอะไร แต่ละคนสามารถเลือกกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ทำแล้วมันช่วยให้คุณได้ใช้เวลาอยู่กับความคิดของตัวเองอย่างมีสติในขณะที่ทำกิจกรรมนั้น เช่น แช่ตัวในอ่างอาบน้ำ อ่านหนังสือ ออกไปเดินเล่น ฝึกโยคะ ไปทำเล็บทำผม ฯลฯ 

สำหรับประโยชน์ของ Me time นั้น นอกจากจะช่วยให้มีเวลาชาร์จพลังแล้วมันยังสามารถมีส่วนช่วยให้คุณสังเกตเห็นความเครียดวิตกกังวลของตัวเองได้มากขึ้นจากการได้อยู่กับตัวเองอย่างมีสติ โดยคุณอาจจะจับสัญญาณความเครียดผ่านการสังเกตตัวเองในด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้ 

ด้านร่างกาย — ปวดหัว, ร่างกายมีความตึง, นอนไม่หลับ, อ่อนเพลีย, ความอยากอาหารเปลี่ยนแปลง สูบบุหรี่จัดขึ้น, ดื่มเหล้าเพิ่มขึ้น หรือมีการใช้สารเสพติด

ด้านอารมณ์ — รู้สึกวิตกกังวล, โมโห, ไม่มีความสุข, หงุดหงิดง่าย, หดหู่ซึมเศร้า, คับข้องใจ

ด้านความคิด หลง ๆ ลืม ๆ, มีคิดกังวลอย่างต่อเนื่อง, มีปัญหาในการตัดสินใจ, คิดทางลบ, เบื่อหน่าย

ด้านประสิทธิภาพในการทำงาน ทำงานหนักเกินไป, ทำงานยาวนานแบบไม่ยอมพัก, รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวได้น้อยลง, มีปัญหาความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน, งานที่ทำไม่บรรลุตามเป้าหมาย

ด้านสังคม ขาดการสนิทสนมกับคนอื่น, แยกตัว, มีปัญหากับคนในครอบครัว, ขัดแย้งกับคู่สมรส, รู้สึกโดดเดี่ยว

ด้านจิตวิญญาณ เย็นชาไม่แยแสใครหรืออะไร, ไม่รู้ว่าความหมายของชีวิตคืออะไร, รู้สึกว่างเปล่า, รู้สึกผูกใจเจ็บไม่ยกโทษ, สับสน, รู้สึกผิด, รู้สึกสิ้นหวัง


How to อยู่กับตัวเองและโอบกอดช่วงเวลาแห่งความสันโดษ

การอยู่กับตัวเองอย่างสันโดษอาจจะไม่ยากสำหรับคนที่มีลักษณะชอบทำอะไรคนเดียวหรืออยู่คนเดียวตามลำพังโดยธรรมชาติ แต่สำหรับคนที่มีลักษณะเป็นแบบตรงข้ามก็อาจจะยากสักหน่อย ผู้เขียนจึงได้นำคำแนะนำที่เขียนโดย Dr. Itai Ivtzan นักจิตวิทยา ที่ได้แนะนำแนวทางในการปฏิบัติเพื่อให้สามารถโอบกอดช่วงเวลาแห่งความสันโดษเอาไว้ ดังนี้

1. จัดตารางชีวิตให้มีช่วงที่ได้อยู่ตามลำพัง: กำหนดเวลาเอาไว้เลยว่าในแต่ละวันจะใช้ช่วงไหนในการอยู่กับตัวเองโดยบอกกับตัวเองว่าห้ามต่อรอง การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณเห็นถึงความสำคัญของการสะท้อนตัวเอง (self-reflection) และช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถเก็บเกี่ยวประโยชน์ที่ได้รับจากช่วงเวลานี้

2. สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย: จัดบ้านสักโซนหนึ่งให้มีความเงียบสงบผ่อนคลาย หากิจกรรมที่ทำได้ตามลำพัง เช่น อ่านหนังสือ นั่งอยู่ในมุมที่มีต้นไม้ หรือนอนแช่ฟองสบู่ในอ่างอาบน้ำ

3. เอาสิ่งรบกวนออกไป: ปิดโทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์เชื่อมต่อต่าง ๆ ในระหว่างช่วงเวลานั้น เพื่อเอื้อให้เกิดความสงบมากพอที่จะนำไปสู่การสะท้อนหรือการสำรวจเข้าไปข้างในใจของตนเอง

4. ฝึกเทคนิค mindfulness: ใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามลำพังเพื่อฝึก mindfulness ด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำสมาธิ การฝึกลมหายใจ เพื่อช่วยให้คุณสามารถโฟกัสอยู่กับความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้ซึ่งจะช่วยให้เกิดการตระหนักรู้ในตนเองและช่วยในเรื่องของการควบคุมอารมณ์ตนเอง

5. เขียนบันทึก: การจดบันทึกความคิดและความรู้สึกที่เกิดขึ้นในระหว่างที่คุณใช้เวลาอยู่ตามลำพังจะช่วยให้คุณเกิดการ “ปิ๊งแว้บ (insight)” ขึ้นมาในใจ ซึ่งการจดบันทึกเอาไว้จะช่วยให้คุณสามารถย้อนไปดูสิ่งที่บันทึกได้และสามารถติดตามพัฒนาการของคุณเอง (personal growth) รวมถึงเห็นรูปแบบของความคิดและอารมณ์ของตนเองได้ด้วย

6. เปิดใจให้กับงานอดิเรกและความสนใจ: ใช้ช่วงเวลานี้ไปกับการสำรวจใจตัวเองว่ามี passion หรือสนใจอะไร โดยอาจจะเป็นการอ่านหนังสือ การวาดรูป หรืองานอดิเรกที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ โดยเลือกกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินช่วยให้อารมณ์ดีและสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับตนเอง

7.  เริ่มแบบค่อยเป็นค่อยไปและใจเย็น ๆ: หากคุณเป็นมือใหม่ในสายสันโดษคุณอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวปรับใจเวลาที่ต้องอยู่กับตัวเองตามลำพัง ในช่วงแรก ๆ คุณอาจจะเริ่มจากการใช้เวลาอยู่กับตัวเองไม่ต้องเยอะมาก เช่น ใช้เวลา 2-3 นาทีต่อหนึ่งวัน จากนั้นเมื่อคุณเริ่มรู้สึกเข้าที่เข้าทางแล้วก็ค่อย ๆ เพิ่มเวลาให้มากขึ้นจนกระทั่งคุณเกิดความคุ้นเคยกับความสันโดษ


โดยสรุป Me time หรือการใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามลำพังเพื่อชาร์จพลังถือเป็นหนึ่งในวิธีการดูแลใจตัวเองแบบหนึ่งซึ่งไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว ผู้เขียนขอเป็นอีกหนึ่งคนที่สนับสนุนให้ทุกคนฝึก “ใจดีกับตัวเอง” เพื่อลดความเครียดวิตกกังวลที่มันอาจจะกลายเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่รุนแรงมากขึ้นได้หากสะสมเอาไว้นาน

 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

[2] Work, Home, Multiple Roles and Stress. Retrieved from https://speakingofwomenshealth.com/health-library/work-home-multiple-roles-and-stress

 

ประวัติผู้เขียน

นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) มีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นแม่บ้านในอเมริกาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ childhood trauma และยังคงมีความฝันที่จะสื่อสารกับสังคมให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต 

Nilubon Sukawanich (Fern) has work experiences as a counseling psychologist and speaker in university for 11 years. Currently occupation is a housewife in USA who keep on learning about childhood trauma and want to communicate to people about mental health problems awareness. 


Commentaires

Les commentaires n'ont pas pu être chargés.
Il semble qu'un problème technique est survenu. Veuillez essayer de vous reconnecter ou d'actualiser la page.
facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page