9 ข้อจากงานวิจัย เลี้ยงลูกอย่างไรให้กลายเป็นคนประสบความสำเร็จ
เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนต้องอยากเห็นลูกของเราประสบความสำเร็จในชีวิต ทุกคนพยายามให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกเท่าที่ตนเองจะมีความสามารถที่จะให้ได้ วันนี้แพรมีงานวิจัยที่มีการรับรองทางวิทยาศาสตร์ต่อปัจจัยในการเลี้ยงดูของพ่อแม่ ที่มีผลด้านบวกต่อความสำเร็จของลูก 9 ข้อมาฝากทุกคนค่ะ
1.พวกเขาสนับสนุนลูกในสิ่งที่ลูกอยากเป็นไม่ว่าอะไรก็ตาม
มีการศึกษาในอเมริกา พบว่า เด็กๆ มีความสนใจที่จะพัฒนาตัวเอง หรือทำงานหนักเพื่อประสบความสำเร็จในชีวิตน้อยลงทุกวันๆ นักวิจัยทำการศึกษาเด็กวัยรุ่นจำนวน 400 คน
พบว่า พวกเขาไม่สนใจที่จะทำงานในอาชีพที่เราเชื่อว่ามีความมั่นคง แต่สนใจที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาชอบ เช่น เป็นนักดนตรี เป็นนักกีฬา หรือเป็นนักออกแบบเกมส์ ซึ่งหากเป็นความสนใจส่วนตัว พวกเขาจะทุ่มเทอย่างหนักในการทำสิ่งๆ นั้นให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้น พ่อแม่ในปัจจุบันควรที่จะเข้าใจความชอบของลูก และสนับสนุนพวกเขาให้ได้ทำในสิ่งที่พวกเขาชอบ เพราะนอกจากพวกเขาจะมีความสุข ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอยากเห็นแล้ว พวกเขายังมีกำลังใจอย่างมหาศาลในการทำสิ่งๆ นั้นให้ประสบความสำเร็จอีกด้วย
2.ทานข้าวเย็นด้วยกัน
การศึกษาของมหาวิทยาลัย Harvard พบว่า เด็กๆ ที่ได้ใช้เวลากินข้าวเย็นกับครอบครัว ประสบความสำเร็จในชีวิตมากกว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้เวลานี้กับครอบครัว การรับประทานอาหารเย็นร่วมกัน วันละครั้ง เป็นกิจกรรมที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งเพื่อสานความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สังคมในปัจจุบัน ที่พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน ลูกไปโรงเรียน ช่วงเวลาเดียวที่จะได้พบปะพูดคุย สังเกตความเป็นไปของลูกคือเวลาที่ได้นั่งรับประทานอาหารเย็นด้วยกันนั่นเองค่ะ
3.พ่อแม่ทำงานนอกบ้าน
Harvard ได้ทำการศึกษาและพบว่า เด็กที่เติบโตมาจาก พ่อแม่ที่ทำงานนอกบ้าน มีรายได้มากกว่าเด็กที่ พ่อแม่ทำงานที่บ้าน
4.ครอบครัวที่จำกัดการใช้เวลาผ่านหน้าจอของเด็กๆ
การใช้เวลากับ smart phone หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ของเด็กๆ จะมีผลต่อการพัฒนาของสมองของพวกเขา เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 เดือนไม่ควรที่จะใช้เวลากับสิ่งเหล่านี้เลย ผู้ปกครองควรจัด media free zone ที่บ้านเช่น ที่โต๊ะกินข้าว ในรถ หรือในห้องนอน เป็นต้น
5.ให้พวกเขาทำงาน
จากการศึกษาของ Lythcott-Haims อดีตอธิการบดีของ Stanford University พบว่า เด็กๆ ที่พ่อแม่ให้ช่วยทำงานบ้าน ฝึกให้รับผิดชอบ จะสามารถเรียนได้ดี และมีหน้าที่การงานที่ดีกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้ให้ทำอะไรเลย
6.อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
New York University School of Medicine พบว่า เด็กๆ ที่เติบโต โดยพ่อแม่อ่านหนังสือให้ฟังตลอด จะมีการพัฒนาทางด้านภาษา การอ่านออกเขียนได้ที่ดีกว่า และจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่รักการอ่านด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ Dr.Alice Sullivan ยังได้ทำการศึกษาโดยติดตามคนจำนวน 17,000 คนในประเทศอังกฤษ ทำการเปรียบเทียบเด็กอายุ 5 และ 10 ปี ที่มีพื้นฐานครอบครัวคล้ายคลึงกัน และมีผลการเรียนที่ใกล้เคียงกัน พบว่า เด็กที่อ่านหนังสือบ่อยๆ มีผลการเรียนดีกว่าเด็กที่อ่านหนังสือน้อย
7.ฝึกให้พวกเขารอคอย
มีการศึกษาพบว่า เด็กๆ ที่ผู้ปกครองฝึกให้พวกเขารอคอย ไม่ให้ในสิ่งที่พวกเขาให้ในทันที แต่ฝึกความพยายามของพวกเขา ส่งผลให้พวกเขามีผลการเรียน มีความสามารถในการจัดการกับความเครียด ได้ดีกว่า เด็กที่ถูกตามใจโดยผู้ปกครอง
8.ให้พวกเขาได้ล้มเหลว
ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากเห็นลูกเสียใจ หรือล้มเหลวในเรื่องต่างๆ แต่การที่ให้ลูกได้ลองล้มเหลว ลองทำผิดพลาด มีผลดีต่อพวกเขา นั่นคือ พวกเขาจะเรียนรู้จากความล้มเหลวนั้นๆ และใช้เป็นบทเรียนที่ดีในการใช้ชีวิตต่อไป นอกจากนี้ ความล้มเหลว และ ความสามารถที่จะกลับมาเริ่มต้นใหม่ ยังฝึกความพยายาม และภูมิต้านทานต่ออุปสรรคต่างๆ ให้พวกเขาอีกด้วย
9.ให้พวกเขาได้ท่องเที่ยว
การเดินทาง เป็นอีกหนึ่งการเรียนรู้ที่ดีเยี่ยม จากการศึกษาพบว่า เด็กๆ ที่ได้เดินทางท่องเที่ยว
76% ต้องการท่องเที่ยวมากขึ้น
74% ยอมรับและเรียนรู้ความแตกต่างของวัฒนธรรมที่หลากหลาย
73% มีความต้องการที่จะเรียนรู้มากขึ้น
70% มีความพยายามที่จะทดลองอาหารที่หลากหลาย
69% มีความสามารถในการพึ่งพาตัวเอง รักตัวเอง และมีความมั่นใจ
69% มีความสงสัยกับสิ่งต่างๆ และฉลาด
66% ยอมรับในความแตกต่างของมนุษย์ และให้เกียรติผู้อื่น
66% มีความสามารถในการปรับตัวได้ดี
51% เป็นคนที่เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย
51% แสดงความรู้สึกนึกคิด และมีความเป็นตัวของตัวเอง
42% มีความสามารถในการสอบเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้ดีกว่า
นี่หละคะ 9 ปัจจัยที่มีผลต่อการที่ผู้ปกครองจะมีส่วนช่วยให้ลูกๆ ได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะ
และหากคุณต้องการพัฒนาตนเองให้กลายเป็นที่ปรึกษาที่เข้าอกเข้าใจตนเองและผู้คนมากขึ้น เพื่อปรับใช้ในการทำงาน ครอบครัว และในชีวิตประจำวัน คุณสามารถสมัครเรียน "หลักสูตรนักให้คำปรึกษากับนักจิตวิทยา" จาก iSTRONG ได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
.
สำหรับองค์กร
• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
Comments