พ่อแม่จะช่วยให้ลูกไม่มีนิสัยชอบใช้ความรุนแรงได้อย่างไร ในยุคที่ความรุนแรงมีอยู่รอบตัว
ข่าวการกราดยิงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยแต่ละครั้งถือว่าสร้างความสะเทือนใจและหวาดกลัวให้กับคนไทยอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองที่ดูข่าวอยู่ก็อาจจะเกิดความกังวลใจขึ้นมา ในยุคที่ความรุนแรงมีอยู่รอบตัวแบบนี้ควรจะทำอย่างไรเพื่อให้ลูกไม่มีนิสัยชอบใช้ความรุนแรง หลายคนก็อาจจะคิดว่า “เกม” คือตัวแปรหลักที่ทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงหรือไม่ ในบทความนี้ ผู้เขียนได้รวบรวมสาเหตุของพฤติกรรมรุนแรงของวัยรุ่นมาฝาก ได้แก่
อิทธิพลของสื่อ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงวิดีโอเกมและ social media มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม จากบทความของเว็บไซต์ Very well family ระบุว่าสาเหตุหนึ่งของพฤติกรรมรุนแรงในเยาวชนก็คือ “อิทธิพลของสื่อ” โดยในบทความได้อ้างถึงงานวิจัยบางส่วนที่ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างวิดีโอเกมและพฤติกรรมความรุนแรง
ซึ่งแต่ละงานวิจัยจะมีข้อสรุปที่แตกต่างกันไปโดยมีทั้งงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าวิดีโอเกมมีผลต่อพฤติกรรมรุนแรง และงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าวิดีโอเกมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพฤติกรรมรุนแรง อย่างไรก็ตาม แม้หลายงานวิจัยจะได้ผลของการศึกษาว่าวิดีโอเกมไม่ได้ทำให้เยาวชนเกิดพฤติกรรมรุนแรงโดยตรง
แต่วิดีโอเกมก็มีผลต่อสุขภาวะ (Well-being) ของเยาวชนอยู่เหมือนกัน นอกจากนั้น วิดีโอเกมที่มีเนื้อรุนแรงก็อาจมีอิทธิพลต่อเยาวชนได้ แต่กระนั้นวิดีโอเกมก็ไม่ได้เป็นจำเลยเดียวที่ถูกมองว่าเป็นสาเหตุของพฤติกรรมรุนแรงของเยาวชน Social media ก็เป็นอีกจำเลยที่ถูกมองว่าทำให้เยาวชนเกิดการลอกเลียนแบบและแสดงพฤติกรรมรุนแรงออกมา
สภาพแวดล้อมทางสังคม
สภาพแวดล้อมที่เยาวชนเติบโตก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อรูปแบบพฤติกรรมของเยาวชน ซึ่งในที่นี้หมายรวมถึงสภาพเศรษฐกิจสังคมของชุมชนที่เด็กคุ้นชิน ตัวอย่างของสภาพแวดล้อมที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรมรุนแรงของเยาวชน
ได้แก่ คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่ในชุมชนมีปัญหาทางเศรษฐกิจ มีความเป็นชุมชนไร้ระเบียบ เพื่อนบ้านตีกันรายวัน เป็นแหล่งค้าขายยาเสพติด ตำรวจไม่ค่อยเข้ามาดูแลตรวจตรา เด็กที่โตมากับสภาพแวดล้อมเช่นนี้จึงมองว่ามันเป็นสภาพแวดล้อมที่ปกติเพราะเกิดความคุ้นชินกับสภาพแวดล้อมที่เติบโตมา
ความรุนแรงในครอบครัว
ผู้เขียนมีความคิดเห็นส่วนตัวว่า “ความรุนแรงในครอบครัว” เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะนอกจากมันจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เด็กเกิดบาดแผลทางใจที่ส่งผลต่อพฤติกรรมในอนาคตแล้ว ยังมีเรื่องของการเลียนแบบทางสังคมเข้ามาเชื่อมโยงอีกด้วย อ้างอิงจากการทดลองของ Albert Bandura ที่มีชื่อว่า “The Bobo Doll Experiment”
ซึ่งเป็นการทดลองที่คลาสสิคขึ้นหิ้งพอสมควร โดยผู้เข้าร่วมการวิจัยเป็นเด็กชาย 36 คน เด็กหญิง 36 คน ที่อยู่ในความดูแลของ Stanford University Nursery School อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมการวิจัยคือ 3 – 6 ปี ผลของการวิจัยพบว่าเด็กจะเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สาธิตการเล่นกับตุ๊กตา (Bobo Doll)
และเด็กที่ได้เห็นตัวแบบที่กระทำรุนแรงกับตุ๊กตา เช่น เตะ จับโยน เด็กก็จะทำเลียนแบบและมองว่านั่นเป็นพฤติกรรมการเล่นที่ปกติ จึงสรุปได้ว่าเด็กที่เห็นผู้ใหญ่แสดงพฤติกรรมรุนแรงต่อหน้า ก็มีโอกาสสูงที่เด็กจะมองว่าการใช้ความรุนแรงเป็นเรื่องปกติ ทำให้เด็กมีพฤติกรรมรุนแรง
ขาดการดูแลเอาใจใส่จากพ่อแม่/ผู้เลี้ยงดูหลัก
บางครอบครัวพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูหลักอาจจะไม่มีเวลาหรือไม่ได้เห็นความสำคัญของการเอาใจใส่เด็ก ทำให้เด็กไม่ได้รับการสอนว่าอะไรควรทำไม่ควรทำ เวลาเด็กมีปัญหาก็ปรึกษาคนในครอบครัวไม่ได้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่เด็กจะเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว
และยิ่งถ้าเด็กรู้สึกว่าตัวเองขาดความอบอุ่น เด็กก็อาจจะไปคลุกคลีกับคนนอกครอบครัวที่เด็กรู้สึกดี หากเด็กโชคร้ายก็อาจไปเจอกับสังคมที่ยอมรับเด็กแต่เป็นสังคมมีมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พูดง่าย ๆ ว่า “สบายใจแต่ชวนกันเกเร”
แรงกดดันจากคนรอบข้าง (Peer Pressure)
แรงกดดันจากคนรอบข้างโดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนของวัยรุ่นก็เป็นอีกเหตุปัจจัยที่ทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมรุนแรง วัยรุ่นปกติทั่วไปมักจะไม่ก้าวร้าวรุนแรงด้วยตัวเองแต่จะเป็นไปเพราะกลุ่มเพื่อนยุยงหรือกดดัน เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการการยอมรับจากเพื่อนสูง หากวัยรุ่นไปอยู่ในกลุ่มของเพื่อนที่มีพฤติกรรมรุนแรงก็มักจะต้องทำพฤติกรรมรุนแรงให้เหมือนกับเพื่อนในกลุ่ม
การใช้สารเสพติดและแอลกอฮอล์
เมื่อสารเสพติดและแอลกอฮอล์ออกฤทธิ์ มันจะไปเพิ่มความก้าวร้าวแต่จะไปลดความรู้สึกกลัวลงซึ่งทำให้ผู้ใช้รู้สึกดี แต่ในระยะยาวมันจะไปทำให้เกิดความรู้สึกหดหู่ โกรธเคือง และคับแค้นใจ ซึ่งความรู้สึกที่เกิดขึ้นเหล่านี้มักจะทำให้ผู้ใช้แสดงพฤติกรรมรุนแรงเกรี้ยวกราดออกมา
บาดแผลหรือปมในใจ (Trauma Event)
บาดแผลหรือปมในใจก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดพฤติกรรมรุนแรง คนที่มีบาดแผลทางใจมักจะมีความรู้สึกโกรธอยู่ข้างใน เพราะความโกรธคือส่วนหนึ่งของ “stage of grief” วัยรุ่นที่เศร้าโศกเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ
จึงมักจะแสดงพฤติกรรมรุนแรงเพราะมีความความโกรธที่ปะทุอยู่ข้างใน ซึ่งในวัยรุ่นบางราย พฤติกรรมรุนแรงอาจเป็นสัญญาณของอาการเครียดหลังจากเผชิญเหตุการณ์รุนแรง (PTSD)
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กังวลว่าลูกจะมีพฤติกรรมรุนแรงไหม สิ่งแรกที่คุณทำได้เลยทันทีคือการทำให้ตัวเองเป็นพ่อแม่ที่มีอารมณ์มั่นคง ไม่ใช้ความรุนแรงกับลูก เพื่อเป็นตัวแบบที่ดี แต่หากคุณเองก็ไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ การไปปรึกษาจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
อ้างอิง:
[1] Causes of Youth Violence https://www.verywellfamily.com/causes-of-youth-violence-2611437
[2] Do Violent Video Games Lead to Aggressive Behavior? https://www.verywellfamily.com/aggressive-behavior-and-video-games-1094980
[3] What the Bobo Doll Experiment Reveals About Kids and Aggression https://www.verywellmind.com/bobo-doll-experiment-2794993
บทความที่เกี่ยวข้อง
ประวัติผู้เขียน
นางสาวนิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) จบการศึกษาระดับปริญญาโทในสาขาจิตวิทยาการปรึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และระดับปริญญาตรีสาขาจิตวิทยา(คลินิก) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปัจจุบันเป็นนักจิตวิทยา
Comments