ขนมมาร์ชเมลโล่บอกความสำเร็จได้อย่างไร
คุณอาจเคยถูกสบประมาทหรือคอยสะกัดดาวรุ่งด้วยคำพูดที่เสียดแทงจิตใจ ก่อนที่คุณจะเริ่มทำงานสำคัญซักชิ้น หรือกำลังจะตัดสินใจเดินตามความฝัน ถึงไม่ได้พูดคำนั้นออกมาตรงตรง แต่ใช้คำพูดบั่นทอนจิตใจต่าง ๆ นานา เช่น -แกทำไม่ได้หรอก แกคิดใหญ่ไป แกไม่มีต้นทุนเหมือนคนอื่นเค้า -คนอื่นที่เก่งกว่า เค้าทำแล้วยังล้มเหลว แล้วมึงจะทำได้เหรอ -จะเอาเวลาที่ไหนมาทำ แค่ทำปัจจุบัน ยังทำไม่ได้เลย -เรื่องนี้แกไม่เก่ง ให้คนอื่นทำแทนดีกว่า -อย่ามักใหญ่ใฝ่สูง อย่าคิดเกินตัว เรามันก็ได้แค่นี้แหละ -ไร้ความสามารถ ไม่มีสมอง โง่มากนะ -คิดเองไม่เป็นรึยังไง ต้องให้คอยบอกตลอด บลา...บลา...บลา...สรรหาคำพูดมาบั่นทอนได้อีกเยอะ... คุณเชื่อไหม ว่า Jack Ma ก็เคยถูกมองแบบเดียวกัน เช่น โดนปฏิเสธจาก มหาวิทยาลัย Harvard หรือแม้กระทั่ง ไปสมัครงานที่ KFC ที่เป็นตำแหน่งงานง่าย ๆ สามารถสอนกันได้ ทำตามขั้นตอนก็พอ สมัครงาน 24 คน แต่ถูกปฏิเสธอยู่คนเดียว...(แมร่ง...ชีวิต) เราไม่รู้ว่าช่วงนั้น Jack Ma เค้าคิดอย่างไร หรือข้ามผ่านมาได้อย่างไร แต่นับถือหัวใจที่โคตรสู้และไม่เคยยอมแพ้ต่อคำสบประมาทและคำดูถูกต่างๆนานา เราเห็นภาพในปัจจุบันว่าเค้าสำเร็จอย่างมากมายมหาศาล และเป็นบุคคลมีอิทธิพลต่อโลกในยุคปัจจุบัน แต่กว่าเค้าจะผ่านอุปสรรคในอดีตและสำเร็จมาได้......ไม่ง่ายเลย ตราบใดที่หัวใจ ของคนที่ถูกมองว่าเป็นไอ้กระจอก ยังสู้ สู้จากการปฏิเสธและดูถูกนับครั้งไม่ถ้วน กุญแจสำคัญของความสำเร็จ คือ สู้........จน.......สำเร็จ สู้.....กับคำดูถูกมากพอ สู้.....กับคำปฏิเสธมากพอ สู้.....กับความล้มเหลวมากพอ สู้.....กับความเหนื่อยมากพอ สู้.....กับความรู้สึกท้อแท้มากพอ สู้.....กับการเดินเพียงลำพังเพราะคนอื่นยังไม่เข้าใจในสิ่งที่เราทำ สู้....แม้กระทั่งใจตัวเองที่เผลอดูถูกตัวเอง สู้.....แบบมีสติและพัฒนาตัวเองต่อไป สู้.....แบบยิบตา แบบกัดไม่ปล่อย ไม่ลดละความพยายาม เมื่อหัวใจของคุณสู้มากพอใจที่สามารถผ่านด่านอุปสรรค 10 ด่าน 20 ด่าน หรือ 30 ด่านก็ตาม ยิ่งผ่านได้มากเท่าไหร่ ด่านต่อไปที่คุณจะเจอ.......คือ.....ความสำเร็จ ความสำเร็จ.....ไม่ได้เลือกคนที่หน้าตาสวยหล่อ ความสำเร็จ....ไม่ได้เลือกคนที่รวยแต่ชาติกำเนิด ความสำเร็จ....ไม่ได้เลือกคนว่าอยู่ฐานันดรใด ความสำเร็จ.....ไม่ได้เลือกคนที่ถูกมองว่าเป็นไอ้กระจอก แต่ความสำเร็จ.....เลือกคนที่มีหัวใจสู้ พร้อมที่จะอดทนต่อความยากลำบากมากพอ จนประสบความสำเร็จ
คุณพอจำได้ไหม? ทฤษฎีขนมมาร์ชเมลโล่ เมื่อ 30-40 ปีที่แล้ว ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลองวิจัยด้วยการนำบรรดาเด็กๆตั้งแต่อายุประมาณ 4-5 ขวบ มานั่งในห้องเล็ก ๆ แล้วนำขนม "มารช์เมลโล่" ใส่จาน มาวางไว้ตรงหน้าเด็ก ๆ และบอกแด็ก ๆ ว่าจะให้รอเป็นเวลา 15 นาที จะกินเลยหรือรอคอย แต่ถ้ารอจนครบเวลาจะมอบ มารช์เมลโล่ ให้เป็นรางวัล หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เด็กอยู่เพียงลำพังในห้อง พร้อมขนม 1จาน และสังเกตพฤติกรรมจากการถ่ายบันทึกวิดีโอ เมื่อครบ 15 นาที พี่คนเดิมก็กลับมา และพบว่าเด็กบางคน ก็หยิบขนมเข้าปากแบบไม่ลังเล แต่เด็กบางคนอยู่โดยที่ไม่แตะขนมเลยจนครบเวลากำหนด พี่จึงมอบขนมให้เป็นรางวัลตามที่สัญญา
หลังจากนั้นก็ได้มีการติดตามประเมินผลของเด็กที่เข้ารับการทดลองไปเรื่อยๆ จนเติบโตขึ้น นักวิจัยค้นพบจากการทดลองนี้ว่า 1.กลุ่มคนที่ไม่รีบกินมารช์เมลโล่ จะเป็นคนที่อดทนและจัดการชีวิตตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม มากกว่าเด็กที่รีบกินมารช์เมลโล่ทันที
2.กลุ่มคนที่ไม่รีบกินมารช์เมลโล่ ประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่ว่าการงานและเงินทองที่จะเข้ามาตลอดเวลา
3.กลุ่มคนที่รีบกินมารช์เมลโล่ อาจไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ทำงานหนักแต่รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย โอกาสที่ชีวิตจะออกนอกลู่นอกทางเป็นไปได้สูงยิ่งนัก คุณพอเห็นภาพอะไรบ้างใช่ไหม? เอาล่ะออกจากห้องทดลอง กลับเข้ามาสู่โลกความเป็นจริง ว่าถ้าไอ้กระจอกคนนั้น....มีหัวใจที่สู้และอดทนมากพอและทำจนสำเร็จ คุณจะสามารถลบคำสบประมาทและตราบาปที่คนอื่นมอบให้เราหรือแม้กระทั่งที่ตัวเองดูถูกตัวเราเอง ออกไปจากชีวิตคุณได้ และความสำเร็จจะเข้ามาแทนที่ เป็นความสุขใหม่ เป็นภาพลักษณ์ใหม่ของคุณ ที่คุณสามารถยืนอยู่ตรงหน้าคนที่สบประมาทคุณได้อย่างภาคภูมิใจ เหมือนที่ Jack Ma ได้ยืนตรงจุดนี้มาแล้วเช่นกัน เค้าทำได้ คุณก็ทำได้ ขอแค่หัวใจคุณสู้และอดทนมากพอ ขอพลังและความกล้าหาญจงมาและสถิตอยู่ในใจทุกคน
Comments