4 วิธีรับมือเมื่อถูกกลั่นแกล้ง "Bully"
ไม่มีใครอยากเป็นคนที่ถูกกลั่นแกล้ง (Bully) แล้วเราควรจะทำอย่างไรเมื่อตัวเองโดนกลั่นแกล้ง ในยุคนี้เราจะได้ยินคำว่า “บูลลี่ (Bully)” กันบ่อย แต่ก็มีหลายคนที่คิดว่า บูลลี่ (Bully) เป็นศัพท์ใหม่ แต่ที่จริงแล้วคำว่า บูลลี่ (Bully) มีมานานแล้ว และในช่วงหลังเราจะได้ยินข่าวเรื่องของการ Bully กันในเด็ก จนเกิดเป็นปัญหาคดีความ ความสูญเสียหลายครั้ง บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับการบูลลี่มากขึ้นค่ะ
บูลลี่ (Bully) คือ การกลั่นแกล้ง การที่ทำให้ใครบางคนได้รับบาดเจ็บไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำโดยเจตนาและมีการทำซ้ำๆ เพื่อให้คนที่โดนกระทำ รู้สึกเสียใจ อับอาย
โดยการกลั่นแกล้ง หรือ Bully สามารถแบ่งแยกได้เป็นหลายข้อย่อยๆ
1. การกลั่นแกล้งด้วยการทำร้ายร่างกายใช้กำลังบังคับ เช่น หยิก ผลัก ตี ต่อย เตะ แย่งหรือข่มขู่เอาสิ่งของจากเหยื่อ ทำลายข้าวของเสียหาย สั่งให้ทำเรื่องที่ไม่อยากทำ สั่งให้ไปกลั่นแกล้งคนอื่นต่อ
2. การกลั่นแกล้งด้วยการใช้คำพูดทำร้ายจิตใจ ความรู้สึก เช่น ล้อเลียน ข่มขู่ ดูถูก วิพากษ์วิจารณ์ พูดล้อเลียนอย่างรุนแรง ใช้ถ้อยคำล่วงละเมิดทางเพศ
3. การกลั่นแกล้งด้วยการกลั่นแกล้งทางสังคม เช่น กีดกันออกจากสังคมหรือห้ามคนอื่นเข้าใกล้ โดยอาจใช้การข่มขู่หรือเผยแพร่ข่าวลือในทางลบ หรือที่เรามักได้ยินวัยรุ่นพูดว่า โดนแบนออกจากกลุ่มนั่นเอง
4. การกลั่นแกล้งด้วยการกลั่นแกล้งทางโซเชียล หรือ Cyberbullying ซึ่งเป็น 1 ในการ Bully ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์เข้ามามีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเป็นการกลั่นแกล้งที่ทำได้ง่ายและไม่ต้องเปิดเผยตัวตนผู้กระทำ หรือที่เรามักได้ยินว่า แอคหลุม , แอคอวตาร ซึ่งสามารถทำร้ายเหยื่อได้ตลอดเวลาผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงตั้งคำถามกับตัวเองว่า การที่บางครั้งเราโดนเพื่อนล้อ หรือเราไปล้อ ชื่อพ่อแม่ โดนล้อเรื่องสีผิว เรื่องหุ่น เหล่านี้นับเป็นการกลั่นแกล้งด้วยหรือไม่ การกลั่นแกล้งมีทั้งหมด 3 ระดับ
1. คนแกล้งจะต้องมีเจตนา ไม่ได้คิดจะล้อเล่นขำๆเท่านั้น
2. คนที่ถูกแกล้งจะต้องรู้สึกเจ็บปวด ไม่ว่าจะเป็น ทางกาย วาจา หรือจิตใจ
3. เกิดการกระทำต่อเนื่อง ซ้ำๆ เพราะเจตนาของคนแกล้งยังคงอยู่
เมื่อเราทำครั้งแรกแต่รู้ว่าเพื่อนไม่ชอบ ควรจะหยุด ไม่ควรเกิดครั้งที่สองและครั้งที่สาม ถ้ายังเกิดขึ้นอีกแสดงว่ามีเจตนาแอบแฝง ดังนั้นพฤติกรรมการ bully หรือการกลั่นแกล้งคนอื่น จะต้องเป็นไปตามสามข้อนี้ค่ะ
แล้วเราควรจะรับมืออย่างไรเมื่อถูก Bully
1.มีสติ
เมื่อเราโดน Bully สิ่งแรกที่เราต้องกลับมาทำงานด้วย คือตัวเราเองค่ะ เราต้องมีสติ เพื่อสามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ การที่เรามีสติ รับรู้ว่า ขณะนี้เรากำลังโดน Bully อยู่ ขอให้เราให้เวลากับตัวเอง และพิจารณาการ Bully นั้น
เช่น โดนล้อว่าเตี้ย เมื่อเรามีสติพิจารณาว่า สิ่งที่เราโดนล้อเลียนเรื่องส่วนสูงของเรานั้น เราผิดมั้ยที่เตี้ย และความเตี้ยของเราสามารถแก้ไขได้มั้ย เช่นตัวของผู้เขียนเองก็มักโดนล้อเป็นประจำเรื่องความเตี้ย ซึ่งผู้เขียนได้พิจารณาแล้วว่า ไม่สามารถแก้ไขส่วนสูงได้ เพราะด้วยกรรมพันธุ์ที่คุณพ่อ คุณแม่ ก็size มินิ เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อเราไม่สามารถแก้ไขได้ เราก็ไม่ควรไปนอยด์ เสียใจ จมอยู่กับคำล้อเลียนนั้น เพราะสุดท้ายแล้วเราก็ไม่สามารถแก้ไขได้
2. ตัดวงจรการ Bully
หลายครั้งค่ะที่เรามักเกิดอารมณ์ หัวร้อน กับคำวิจารณ์ หรือการโดนล้อเลียนบางอย่าง โดยเฉพาะกับเรื่องที่เรา Sensitive มากๆ เราก็จะตอบสนองต่อการกลั่นแกล้งแบบแรงมา แรงกลับ ไม่โกง เธอทำฉัน ฉันทำเธอ เพื่อความสะใจ แต่สุดท้ายวงจรของการ Bully ก็ไม่จบ ทำกันไป ทำกันมา วนเป็นวงกลมต่อไปเรื่อยๆ และสุดท้ายต่างคน ต่างก็ได้รับความเจ็บปวด แพ้ทั้งคู่
การตัดวงจรการ Bully คือ การที่เราไม่ตอบสนองการกระทำนั้น เช่น หากเราโดน Comment ด่า หรือ แซว เราก็แค่ไม่ตอบ ทิ้ง comment นั้นไว้ไม่สนใจ หรือหากบล็อกได้ ก็บล็อกไปเลยค่ะ การที่เราไม่ตอบ บล็อก ไม่ได้หมายความว่า เราแพ้ เราชนะด้วยซ้ำ “ชนะใจตัวเอง”
3. ปรับมุมมองที่มีต่อตัวเอง
จะไม่มีคำล้อเลียน หรือคำวิจารณ์ คำไหนที่ทำร้ายเราได้ หากเราไม่นำคำล้อเลียนนั้นมาคิดต่อ เช่น ตัวผู้เขียนโดนล้อว่า อีดำ ถ้าผู้เขียนนำคำล้อเลียนนั้นมาคิดต่อ ว่า “ทำไมฉันผิวดำ” “ฉันผิดที่ฉันเกิดมาดำ” “ฉันผิวดำแสดงว่าฉันไม่สวย” และเมื่อคิดได้อย่างนั้น ก็จบลงที่เสียใจกับตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองผิด ไม่มีคุณค่า เห็นมั้ยล่ะคะว่า คนที่ทำร้ายเรามากที่สุด ไม่ใช่คนที่แกล้งเราหรอก แต่เป็นตัวเราเองเนี่ยแหละ
ดังนั้น ปรับมุมมองที่มีต่อตัวเอง โดยวิธีง่ายๆที่ผู้เขียนใช้เป็นประจำก็คือ มองหาข้อดีของตัวเอง หรือนำคำล้อเลียนนั้นมาปรับให้เป็นบวก เช่น โดนล้อว่า ผิวดำ คนผิวดำก็เป็นคนที่สวยได้นะ เหมือนการประกวดนางงามไง มีหลายครั้งเลยนะที่คนผิวดำ ได้เข้าชิงในรอบลึกๆ และคนผิวดำ เหล่านั้นก็มีความสามารถทั้งนั้นเลย ตัวอย่าง โซซิบินี่ ทุนซี่ (Zozibini Tunzi) “ฉันเติบโตมากับโลกที่ผู้หญิงที่หน้าตาแบบฉัน สีผิวแบบฉัน เรือนผมแบบฉัน ไม่เคยถูกมองว่าสวย ฉันเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องหยุดความคิดนี้เสียที ฉันอยากให้เด็ก ๆ มองมาที่ฉัน ดูมาที่ดวงหน้านี้ และอยากเห็นใบหน้าของพวกเขาสะท้อนบนดวงหน้าของฉันบ้าง” คำกล่าวของ โซซิบินี่ ทุนซี่ (Zozibini Tunzi) นางงานจากแอฟริกาใต้ ที่สามารถก้าวไปสู่ความฝันได้สำเร็จ เป็น Miss Universe 2019
เห็นมั้ยคะว่าการที่เรา โดนล้อ หรือถูกมองว่าไม่สวย ไม่ได้กระทบต่อชีวิตเราเลย หากเราสามารถปรับมุมมองที่มีต่อตัวเองให้เป็นบวกได้ และไม่ทำคำล้อเลียน คำวิจารณ์นั้นมาทำร้ายคุณค่าในตัวเอง เห็นคุณค่าในตัวเอง เป็นเราในแบบที่เราเป็น และมีความสุขกับสิ่งที่เป็นเรา
บทความแนะนำ : คุณเป็นคนที่ชอบโทษตัวเองหรือเปล่า?
4. ขอความช่วยเหลือ
หากรู้สึกว่าไม่สามารถรับมือกับการกลั่นแกล้งนั้นได้ หรือการกลั่นแกล้งนั้นมันทำร้ายจิตใจของเรา จนเราไม่ไหวแล้ว สู้ไม่ไหว ไม่อยากออกไปพบผู้คน ซึมเศร้าและมีความคิดที่จะทำร้ายตัวเอง แนะนำให้ขอความช่วยเหลือจาก คุณพ่อ คุณแม่ คุณครู นักจิตวิทยาหรือผู้เชี่ยวชาญในการดูแลจิตใจของเรานะคะอย่าปล่อยทิ้งไว้
และสุดท้าย “เราไม่สามารถคาดหวังให้ใครหยุดกลั่นแกล้งเราได้ แต่เราสามารถพัฒนาตัวเองได้”
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
• คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
ประวัติผู้เขียน : ธนัชพร สุทธิศันสนีย์
ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบุคลากร นักจิตวิทยาผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพและทักษะ วิทยากรฝึกอบรม พิธีกร
และนักออกแบบหลักสูตรฝึกอบรม
กำลังศึกษา วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (วท.ม) สาขาจิตวิทยาชุมชน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ศิลปศาสตร์บัณฑิต (ศศ.บ.) สาขาจิตวิทยา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์
Comments