7 วิธีง่ายๆ ทำอย่างไรให้ลูกเข้าสังคมได้ดี
ในปัจจุบันนี้คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากจะนิยมมีลูกคนเดียว ผู้เขียนเองก็เช่นเดียวกัน จริงๆแล้วจะใช้คำว่า “นิยม” ก็ไม่ถูกต้องนัก เพราะปัจจัยหลายๆอย่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน เศรษฐกิจ สังคม หรือแม้แต่ความผันผวนทางการเมืองที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านตัดสินใจว่า มีแค่คนเดียวแล้วเลี้ยงให้ดีที่สุดก็ยากแล้ว ทำให้เด็กๆ ในครอบครัวสมัยใหม่มักจะเป็นลูกโทน ไม่มีพี่น้อง
ข้อเสียใหญ่ๆ ของการเป็นลูกคนเดียว หลานคนเดียวของบ้านก็คือ เด็กๆ มักจะเอาแต่ใหญ่ ไม่แบ่งปัน และเข้ากับเพื่อนรุ่นเดียวกันยาก ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงได้ศึกษาเรื่องจิตวิทยาสังคมเด็ก และสรุปออกมาเป็นแนวทางในการฝึกการเข้าสังคมที่เหมาะสมให้แก่ลูกๆ หลานๆ ที่รักของเรากันค่ะ
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจเรื่องพัฒนาการทางสังคมของเด็กก่อนนะคะ Eric Erikson ได้อธิบายเกี่ยวกับลักษณะพัฒนาการในช่วงวัยของบุคคลว่า ในแต่ละช่วงวัยของชีวิตนั้นมีสิ่งที่เด็กแต่ละคนควรจะทำได้ตามช่วงวัยของเขา หากเด็กไม่สามารถแสดงความสามารถตามวัยได้สำเร็จ จะมีผลต่อการปรับตัวในช่วงวัยต่อๆ มา ดังนั้นแล้วเพื่อให้เด็กๆ สามารถทำสิ่งต่างๆได้ตามวัย รวมถึงการเข้าสังคมด้วยนั้น ผู้เขียนจึงมีแนวทางในการฝึกการเข้าสังคมให้แก่เด็กๆ 7 วิธี ดังนี้
1.ฝึกให้เด็กๆ ช่วยเหลือตนเอง
หากเด็กๆ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในเรื่องต่างๆ ตามวัย เขาก็จะเกิดความมั่นใจ ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงทางอารมณ์และการเข้าสังคมของเด็กๆ ต่อไป สิ่งที่คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ควรจะฝึกฝนให้แก่เด็กๆ ก็คือ หัดแปรงฟันเอง โดยคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง คอยช่วยเหลือก่อนในระยะแรก จากนั้นค่อยๆ ปล่อยให้เด็กๆ ทำเอง หัดขับถ่ายให้เป็นเวลา หัดแต่งตัว โดยเริ่มจากฝึกถอดเสื้อ ถอดกางเกงก่อนแล้วจึงฝึกให้สวมเสื้อสวมกางเกงตามมา และหัดตักอาหารกินเอง
2.ฝึกให้เด็กๆ ช่วยทำงานบ้านตามความเหมาะสม
การฝึกให้เด็กๆ ช่วยทำงานบ้าน เป็นการฝึกให้เขาเข้าใจผู้อื่น ฝึกทำงานร่วมกับผู้อื่น อีกทั้งยังสามารถฝึกความมีน้ำใจหากเด็กๆ เห็นผู้อื่นทำงานแล้วเข้าไปช่วยเหลือ โดยเริ่มจากงานบ้านง่ายๆ เช่น เก็บที่นอนเอง กวาดบ้าน หยิบเสื้อผ้าที่จะซักใส่เครื่องซักผ้า วางช้อนส้อมบนโต๊ะอาหาร ช่วยจัดเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ ช่วยรดน้ำต้นไม้ เป็นต้น และคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง อย่าลืมชมน้อง หรือให้รางวัลเป็นหอม เป็นกอด เพื่อเติมกำลังใจให้เด็กๆ ด้วยนะคะ
3.พาเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆทางสังคม
เพื่อให้เด็กๆ ได้ออกไปพบปะผู้คน ร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ให้เด็กๆ เรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่น รู้จักแบ่งปันของเล่น การรอคอย และรู้จักระเบียบ กฎกติกาของสังคมผ่านการร่วมกิจกรรม
4.สอนให้เด็กๆ รู้จักขอบคุณและขอโทษ
การขอบคุณ ขอโทษ เป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องสอนให้เด็กๆเรียนรู้ โดยแสดงให้เด็กๆ เห็นเป็นตัวอย่างในสถานการณ์ต่างๆ และสอนให้เด็กๆ รู้ว่าเมื่อใดที่ควรพูดคำว่าขอโทษและเมื่อใดที่เราควรจะพูดขอบคุณ เช่น เมื่อเด็กๆ เริ่มทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่น ตี หรือแย่งของเล่นเพื่อน ให้ค่อยๆ บอกว่า “หนูไปแย่งของเล่นเพื่อนแบบนี้ไม่ได้ หนูควรขอโทษเพื่อน” หรือเมื่อใครให้ของหรือทำสิ่งใดให้เราก็ควรพูด “ขอบคุณ” พร้อมยกมือไหว้
5.สอนให้เด็กๆ เล่นกับผู้อื่น
เวลาที่เด็กๆ เล่นกับผู้อื่น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง ควรบอกเด็กๆ ว่า ควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร เช่น “อย่าเล่นแรงๆ หรือตี หรือผลักคนอื่น” “อย่าแย่งของเล่นเพื่อน” “ถ้าเพื่อนมาขอเล่นของเล่น ให้แบ่งให้เพื่อนด้วย เลือกดูว่าจะแบ่งชิ้นไหนให้เขาดี เดี๋ยวเพื่อนก็คืน” เป็นต้น
6.สอนให้เด็กๆ ทำตามกติกา
การสอนให้เด็กๆ ทำตามกฎกติกาเป็นสิ่งสำคัญของทักษะทางสังคม ซึ่งคุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง สามารถสอนได้ผ่านกิจวัตรประจำวันและงานบ้าน เช่น เมื่อถึงมื้ออาหารก็ต้องกิน อาจกำหนดเวลาอาหารแต่ละมื้อไว้ เช่น ใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที หากเด็กๆ เล่นอาหาร ขว้างปาช้อนหรือถ้วย อมข้าว หรือกินช้าจนเลยเวลาที่กำหนด ให้เก็บอาหาร ทั้งนี้ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง ต้องใจแข็งและไม่ให้อาหารอื่นเมื่อยังไม่ถึงเวลาอาหารตามที่กำหนดไว้ หรือเมื่อถึงเวลานอนก็ต้องนอน เป็นต้น เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ว่า เขาต้องทำตามกฎกติกาที่ตั้งไว้
7.สอนให้เด็กๆ เคารพสิทธิของผู้อื่น
เช่น ก่อนเข้าห้องคนอื่นต้องขออนุญาต ไม่เอาของคนอื่นมาเล่นโดยเจ้าของไม่อนุญาต ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้เด็กๆ หยิบ หรือแย่งของเล่นของคนอื่นตามใจตนเอง
ทั้ง 7 วิธีที่เสนอมาข้างต้นไม่ยากเลยใช่ไหมคะ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองลองนำไปปรับใช้ดู ได้ผลเป็นอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังได้เสมอนะคะ
อ้างอิง :
1. อริสา โสคำภา. 2551. พฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานอีสปประกอบการใช้สถานการ์จำลอง. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
2. https://www.enfababy.com
Opmerkingen