4 วิธีตอบคำถามจะก้าวข้ามความเจ็บปวดได้อย่างไร

เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในชีวิตของเรา ไม่ว่าจะเป็นการที่ต้องเลิกกับคนที่เรารัก การสูญเสียคนที่เรารัก ถูกเลิกจ้าง หรือเหตุการณ์ใดก็ตามที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเราให้แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งโดยธรรมชาติของมนุษย์ เราต้องการความมั่นคง เราไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง เรารู้สึกไม่ปลอดภัย ไม่รู้ว่าชีวิตข้างหน้าที่เหลืออยู่จะต้องไปเจอกับอะไรบ้าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราใช้เวลากับสิ่งๆ นั้นมาเป็นเวลานาน จนเหมือนกับว่าสิ่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา อนาคตของเราเมื่อต้องสูญเสียสิ่งนั้นๆ ไป ทำให้เรารู้สึกเคว้งคว้าง ตั้งคำถามกับตัวตนของเราอีกครั้ง และถ้าเรารักตัวเองมากพอ เราจะรู้ว่าเราต้องเริ่มต้นใหม่กับชีวิตที่เหลืออยู่

แต่อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในอดีตที่มีอยู่มันช่างมากมายเหลือเกิน เรายังยึดอยู่กับภาพในอดีต หลายๆ คน ถึงแม้จะรู้ว่าความรักแบบเก่ามันไม่ดี แต่ด้วยความคุ้นเคย เราก็มักจะดึงดูดคนแบบเดิมๆ เข้ามาในชีวิตแล้วก็ผิดพลาดซ้ำแบบเดิมๆ อยู่เสมอๆ

และอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้การลืมอดีตเป็นเรื่องยาก เนื่องจากเราผูกความรู้สึกเราไว้กับเรื่องราว นั้นๆ เรื่องราวใดก็ตามที่มีผลต่อความรู้สึกเรา ยิ่งเรารู้สึกมาก เรายิ่งลืมมันได้ยาก

การติดอยู่กับอดีต ส่งผลอย่างยิ่งกับชีวิตในปัจจุบันและอนาคตของเรา บางคนเลือกที่จะปฏิเสธโอกาสดีๆ เพียงเพราะความผิดพลาดในอดีตที่เคยเกิดขึ้น บางคนไม่สามารถที่จะมีความรักใหม่ที่ดีได้ เพียงเพราะความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในอดีต

เมื่อรู้เช่นนี้ ว่าการยึดติดกับอดีตส่งผลเสียกับชีวิตเราอย่างไร เราไปดู 4 วิธีการที่ Tony Robbins ได้แนะนำไว้ในเรื่องของการ ปล่อยวางอดีต และก้าวสู่อนาคตที่สดใสกันเถอะค่ะ

1.ตอบคำถามกับตัวเองให้ได้ว่าทำไมเราถึงอยากปล่อยวางจากอดีต

ลองตั้งคำถามนี้กับตัวเอง “ทำไมเราถึงต้องก้าวต่อไปข้างหน้า? ชีวิตเราจะเปลี่ยนแปลงไปยังไงถ้าเราลืมอดีตได้? เราจะพัฒนาความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของเราได้อย่างไร ถ้าเราลืมอดีตไปได้? และ เราจะรู้สึกกับชีวิตใหม่ของเราอย่างไร?

การตอบคำถาม 'ทำไม' ให้กับตัวเองให้ได้เป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจาก การ move on หรือก้าวไปข้างหน้า โดยลืมอดีตไว้ข้างหลังต้องอาศัยแรงใจที่เข้มแข็งเป็นอย่างมาก ถ้าเรามีเหตุผลที่ชัดเจน ทุกครั้งที่เรากลับไปนึกถึงอดีต กลับไปทำในสิ่งที่เราคุ้นเคย เราจะมีสติ และบอกกับตัวเองได้ว่าเราต้องการเปลี่ยนแปลง และก้าวไปข้างหน้า เราจะไม่ยอมแพ้!

2.ระบุให้ได้ถึงอุปนิสัยทางอารมณ์ของเรา

ยกตัวอย่างเช่น เวลาที่เราเลิกกับใครสักคน เมื่อไรก็ตามที่เราเห็นสิ่งที่เราเคยทำร่วมกับเขา เราจะกลับไปนึกถึงอดีตเรื่องนั้นๆ แล้วปรุงแต่งไปต่างๆนานาที่แย่ อาจจะจบด้วยการโทรไปขอคืนดี แม้เราจะรู้ดีว่ามันไม่ได้ดีกับเราเลย และก็เกิดวงจรความเศร้าเกิดขึ้นอีกครั้ง เรียนรู้อารมณ์ของตัวเอง รู้ให้ทันว่าเรากำลังนึกถึงอดีตอยู่ รู้และหยุดอยู่แค่นั้น ตัวเรามีความสามารถในการเลือกที่จะตอบสนองกับอารมณ์ของเราได้ ถ้าเรามีสติมากพอ

3.ควบคุมร่างกายและจิตใจ

มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่สามารถเลือกตอบสนองกับสิ่งเร้าได้ เมื่อเราตัดสินใจที่จะก้าวไปข้างหน้า และลืมอดีตไว้ข้างหลัง ให้นึกถึงชีวิตที่เราอยากมี และนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้น ป้อนเรื่องราวดีๆ ให้กับสมองของเรา รายล้อมตัวเราไว้ด้วยคนที่จะดึงเราขึ้นสูงขึ้น ตั้งใจพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นทุกวัน โฟกัสในสิ่งที่เราอยากได้ ทำแบบนี้ต่อไปเรื่องๆ อย่างสม่ำเสมอ การเปลี่ยนแปลงไปยังชีวิตที่เราอยากได้ จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

4.การให้

การที่เราจมอยู่กับเรื่องของตัวเอง มัวคิดแต่ปัญหาของเราเอง ชีวิตเราก็จะวนเวียนอยู่ในโลกแคบๆ และปัญหาของเรา ลองเป็นผู้ให้ ลองช่วยเหลือคนอื่น เช่น ไปทำบุญให้เด็กกำพร้า เด็กที่ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ เราอาจจะเห็นว่า อันที่จริงชีวิตเราโชคดีกว่าคนอื่นมากแค่ไหน และตัวเรายังสามารถสร้างประโยชน์ มีคนที่ต้องการความช่วยเหลือจากเราอีกมากแค่ไหน การให้และการช่วยเหลือจะทำให้คุณสามารถสร้างความหมายในการมีชีวิตอยู่ของคุณได้ใหม่ และเป็นความสุขที่แท้จริงมากขึ้น

ชีวิตของเราไม่ได้ยาวนานนัก เราไม่รู้ว่าวันไหนที่เราจะจากโลกใบนี้ไป ชีวิตแต่ละคนก็มีปัญหาและอุปสรรคไปกันคนละแบบ ไม่มีใครที่ไม่เคยเจอปัญหาหรืออุปสรรคเลย เพียงแค่ให้เรายอมรับความจริง เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต วางเรื่องราวที่ไม่ดีไว้แค่ตรงนั้น และใช้ชีวิตที่เหลือของเราให้มีคุณค่ามากที่สุด ให้สมกับชีวิตหนึ่งที่เราเกิดมาบนโลกใบนี้นะคะ