top of page

เทคนิคการช่วยกระตุ้น 4 ฮอร์โมนแห่งความสุขในที่ทำงาน

iSTRONG เทคนิคการช่วยกระตุ้น 4 ฮอร์โมนแห่งความสุขในที่ทำงาน

สถานที่ทำงานของคุณกำลังประสบปัญหาความผูกพันต่ำและความเครียดภาวะหมดไฟสูงหรือเปล่า?


ลองจินตนาการว่าพนักงานของคุณเดินเข้าออฟฟิศด้วยสีหน้าเรียบเฉยออกจะเบื่อหน่ายนิดหน่อย แทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ผลงานกำลังลดลง ระดับความเครียดเพิ่มสูงขึ้น และคนที่มีความสามารถกำลังลาออกไปอยู่กับบริษัทที่ดูเหมือนจะมี "สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีกว่า"


HR และผู้นำทางธุรกิจจำนวนมากต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ การไม่มีส่วนร่วมของพนักงาน อัตราการลาออกสูง และความเครียดในที่ทำงานเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบไม่เพียงแค่วัฒนธรรมองค์กร แต่ยังรวมถึงความสำเร็จทางธุรกิจด้วย


สถานการณ์ที่ว่ามาเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับ "คน" แทบทั้งนั้น ในเมื่อคนมีชีวิตจิตใจ การปรับนโยบาย การให้เงินเดือนที่สูงขึ้น หรือพยายามสร้างตัวชี้วัดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ อาจต้องใช้ความพยายามมากและระยะเวลาค่อนข้างนาน


แต่ในขณะเดียวกัน หากคุณต้องการให้พนักงานที่เป็นมนุษย์ที่มีอารมณ์ความรู้สึกกลับมามีพลังกายพลังใจ มีส่วนร่วมในการสร้างการเติบโตให้บริษัทอย่างเต็มที่อีกครั้ง มีหนึ่งเทคนิคที่ช่วยได้และคุณอาจคาดไม่ถึง นั่นคือการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่กระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขให้หลั่งในตอนที่อยู่ในที่ทำงาน


ด้วยความเข้าใจเกี่ยวกับ ฮอร์โมนแห่งความสุขเซโรโทนิน ออกซิโตซิน โดพามีน และเอนดอร์ฟิน องค์กร ผู้บริหาร และHR สามารถสร้างสถานที่ทำงานที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดี แรงจูงใจ และความผูกพันของพนักงาน ในบทความนี้จะชวนคุณมาสำรวจกันว่า "สารเคมีที่ทำให้รู้สึกดี" เหล่านี้มีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อมในที่ทำงานอย่างไร และคุณจะออกแบบให้สิ่งเหล่านี้เข้ากับวัฒนธรรมองค์กรของคุณได้อย่างไร


วิทยาศาสตร์แห่งความสุขในที่ทำงาน: ทำความเข้าใจฮอร์โมนแห่งความสุข

มนุษย์มีโครงสร้างทางชีวภาพที่รองรับความสุข และสมองของเราผลิตสารสื่อประสาทเฉพาะที่ควบคุมอารมณ์ แรงจูงใจ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง นี่คือวิธีที่ฮอร์โมนแห่งความสุขหลักๆ เหล่านี้ส่งผลต่อพนักงานในที่ทำงาน ในที่นี้จะพูดถึงฮอร์โมนหลัก 4 ฮอร์โมน ดังนี้


1. Serotonin – ตัวปรับสมดุลอารมณ์

เซโรโทนินช่วยควบคุมอารมณ์ ลดความเครียด และเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม พนักงานที่มีระดับเซโรโทนินที่สมดุลจะรู้สึกมีคุณค่า มั่นใจ และมองสภาพแวดล้อมการทำงานในแง่บวก


สัญญาณของระดับเซโรโทนินต่ำในที่ทำงาน

  • พนักงานรู้สึกไม่ได้รับการยอมรับและขาดการเชื่อมโยง

  • ความคิดเชิงลบเพิ่มขึ้น ความขัดแย้งในที่ทำงาน และความเครียด

  • การขาดงานสูงและความเหนื่อยล้า


2. Oxytocin – ฮอร์โมนแห่งการผูกพัน

มักเรียกว่า "ฮอร์โมนแห่งความไว้วางใจ" ออกซิโตซินช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน ส่งเสริมการทำงานเป็นทีม ความปลอดภัยทางจิตใจ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง


สัญญาณของระดับออกซิโตซินต่ำในที่ทำงาน

  • ขาดการทำงานเป็นทีมและความไว้วางใจระหว่างพนักงาน

  • ความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำกับพนักงานไม่ดี

  • พนักงานรู้สึกโดดเดี่ยวหรือไม่ได้รับการสนับสนุน


3. Dopamine – ตัวเพิ่มแรงจูงใจ

โดพามีนเชื่อมโยงกับรางวัลและแรงจูงใจ เป็นเชื้อเพลิงให้กับผลการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ และการบรรลุเป้าหมาย ช่วยให้พนักงานรู้สึกตื่นเต้นกับงานของพวกเขา


สัญญาณของระดับโดพามีนต่ำในที่ทำงาน

  • พนักงานรู้สึกขาดแรงจูงใจและไม่มีส่วนร่วม

  • ขาดนวัตกรรมและความกระตือรือร้น

  • อัตราการลาออกสูงเนื่องจากพนักงานมองหาความตื่นเต้นที่อื่น


4. Endorphins – ตัวบรรเทาความเครียด

เอนดอร์ฟินช่วยให้พนักงานจัดการกับความเครียดและความเจ็บปวด ส่งเสริมความยืดหยุ่นและความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้การทำงานรู้สึกสนุกมากขึ้นและลดความวิตกกังวลในที่ทำงาน


สัญญาณของระดับเอนดอร์ฟินต่ำในที่ทำงาน

  • ระดับความเครียดสูงและการร้องเรียนเกี่ยวกับปริมาณงานเพิ่มขึ้น

  • พลังงานต่ำและการลาป่วยบ่อย

  • พนักงานรู้สึกท่วมท้นและเหนื่อยล้าทางจิตใจ


HR และผู้บริหารสามารถเพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุขในที่ทำงานได้อย่างไร

เมื่อเราเข้าใจหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำไปปฏิบัติ นี่คือวิธีที่ฝ่าย HR และผู้บริหารสามารถสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่กระตุ้นฮอร์โมนแห่งความสุขเหล่านี้อย่างเป็นธรรมชาติ


1. ส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการยอมรับ (เพิ่ม เซโรโทนิน และ โดพามีน)

ผู้คนต้องรู้สึกมีคุณค่าเพื่อรักษาความมีส่วนร่วม การยอมรับกระตุ้นเซโรโทนินและโดพามีน เพิ่มความพึงพอใจในงานและแรงจูงใจ


วิธีทำ

  • จัดโปรแกรมการยอมรับระหว่างเพื่อนร่วมงาน

  • เฉลิมฉลองความสำเร็จของพนักงานอย่างเปิดเผย

  • ส่งเสริมให้ผู้นำให้ข้อเสนอแนะที่มีความหมายอย่างสม่ำเสมอ


🔹 ไอเดีย: คุณลองทำ "กำแพงแห่งความชื่นชม" (Wall of Appreciation) ซึ่งให้พนักงานสามารถเขียนและโพสต์บันทึกขอบคุณใครก็ได้ในที่ทำงาน ซึ่ง Recognition จะส่งผลให้คะแนน Engagement ของพนักงาน


2. สร้างการเชื่อมต่อทีมที่แข็งแกร่ง (เพิ่ม ออกซิโตซิน)

ความไว้วางใจและการสร้างความผูกพันทางสังคมในที่ทำงานมีอิทธิพลโดยตรงต่อความสุข ออกซิโตซินเสริมสร้างความสัมพันธ์ ลดความเครียดในที่ทำงาน


วิธีทำ

  • ส่งเสริมการทานอาหารเที่ยงเป็นทีมและการรวมตัวทางสังคม

  • ฝึกอบรมผู้นำให้พัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และความเห็นอกเห็นใจ

  • สร้างโปรแกรมการเป็นพี่เลี้ยงเพื่อการทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น


🔹 ไอเดีย: คุณลองริเริ่ม "ชิทแชทระหว่างจิบกาแฟ" (Coffee Chats) ประจำสัปดาห์ซึ่งพนักงานจากแผนกต่างๆ พบปะกันอย่างไม่เป็นทางการ สิ่งนี้อาจจะส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างทีมดีขึ้นและการทำงานร่วมกันดีขึ้น


3. ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและให้รางวัลกับความก้าวหน้า (เพิ่ม โดพามีน)

โดพามีนเพิ่มขึ้นเมื่อพนักงานเห็นความก้าวหน้าและได้รับรางวัลสำหรับความพยายามของพวกเขา ทำให้พวกเขายังคงมีส่วนร่วมและตื่นเต้นกับงานของพวกเขา


วิธีทำ

  • ตั้งเป้าหมายที่สามารถบรรลุได้พร้อมเกณฑ์วัดความสำเร็จ

  • ให้รางวัลกับความสำเร็จเล็กๆ ด้วยสิ่งจูงใจที่มีความหมาย

  • ให้โอกาสพนักงานได้ทำงานในโครงการที่พวกเขาหลงใหล


🔹 ไอเดีย: คุณลองให้แต่ละทีมทำ "ภารกิจวันจันทร์" (Mission Monday) ซึ่งพนักงานจะได้มาแบ่งปันเป้าหมายประจำสัปดาห์ การเห็นความก้าวหน้าจะสร้างแรงจูงใจให้พนักงานมากขึ้น


4. ส่งเสริมกิจกรรมทางกายและความสนุก (เพิ่ม เอนดอร์ฟิน)

เอนดอร์ฟินเป็นตัวบรรเทาความเครียดตามธรรมชาติ การส่งเสริมการเคลื่อนไหวและกิจกรรมสนุกๆ ช่วยให้พนักงานมีความยืดหยุ่นทางจิตใจ


วิธีทำ

  • เสนอโปรแกรมโยคะ สมาธิ หรือการออกกำลังกาย

  • สร้างความท้าทายสนุกๆ ในที่ทำงาน (เช่น การแข่งขันนับก้าว)

  • ออกแบบพื้นที่ทำงานที่ส่งเสริมการเคลื่อนไหว (เช่น โต๊ะยืน)


🔹 ไอเดีย: คุณลองจัดทำ "วันสุขภาพดี" (Wellness Wednesdays) โดยให้พนักงานเข้าร่วมออกกำลังกายเป็นกลุ่มหรือกิจกรรมฝึกสติ นำไปสู่การลดความเครียดในที่ทำงานที่รายงานลงได้


ประโยชน์ทางธุรกิจของที่ทำงานที่มีความสุข

เมื่อคนทำงานมาทำงานด้วยอารมณ์ที่ดี รวมทั้งมีแรงจูงใจในการทำงาน มีสังคมที่ดีในที่ทำงาน ความขัดแย้งลดลง ความร่วมมือมากขึ้น ก็ย่อมส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีขึ้น


สภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ใครๆ ก็อยากมาทำงาน ในทางตรงกันข้าม หากเข้ามาที่ทำงานเจอแต่ความขัดแย้ง ความกดดันที่มีแต่จะเพิ่มคอร์ติซอล (สารแห่งความเครียด) อย่างเดียว ไปทางไหนทุกคนก็หน้าตึงใส่กัน แบบนี้พนักงานก็ไม่อยากจะเข้ามาทำงานและไม่อยากมีส่วนร่วมกับกิจกรรมอะไรโดยไม่จำเป็น โดยเลือกที่จะออกไปหาความสบายใจข้างนอกมากกว่า แบบนี้ก็คงยากที่จะสร้างองค์กรที่ High Performance และ High Engagement


อย่าเข้าใจผิดว่าพนักงานที่มีความสุขคือพนักงานที่ขี้เกียจ แต่ตรงกันข้าม กลับจะเป็นพนักงานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแรงจูงใจที่อยากสร้างผลงานให้ดีที่สุด


สิ่งสำคัญคือ พนักงานเองควรได้ตระหนักรู้และเรียนรู้ว่าฮอร์โมนแห่งความสุขมีบทบาทสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของตนเอง และพวกเขาก็มีส่วนในการร่วมสร้างองค์กรที่กระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขได้เช่นกัน


ที่ผ่านมา iSTRONG In-house Training ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตร Happiness Hormone at Work หลายต่อหลายครั้ง และพบว่า พนักงานออกจากคลาสไปด้วยอารมณ์ที่ดีขึ้น มีพลังมากขึ้น และรู้ว่าตนเองจะทำอะไรให้มากขึ้นเพื่อช่วยสร้างสังคมในที่ทำงานให้เป็นที่ที่ทุกคนอยากมาทำงานร่วมกัน เพราะพวกเขาตระหนักว่า หากช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีพวกเขาเองก็ได้รับประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ไปด้วย


คุณสามารถพูดคุยรายละเอียดของคอร์สนี้อย่างละเอียด พร้อมทั้งปรับแต่งให้เหมาะกับบริบทขององค์กรของคุณ กับทีมงานของ iSTRONG โดยติดต่อคุณชญาน์นันท์ 089-0299860 หรืออีเมล์ chayana@istrong.co และ contact@istrong.co หรือคลิกบริการดูแลสุขภาพใจในองค์กร

 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

iSTRONG ผู้ให้บริการด้านสุขภาพจิต Solutions ด้านสุขภาพจิต ให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง รวมถึงบทความจิตวิทยา

© 2016-2025 Actualiz Co.,Ltd. All rights reserved.

contact@istrong.co                     Call 02-0268949

  • Facebook Social Icon
  • YouTube Social  Icon
  • Instagram
  • Twitter
bottom of page