ลืมแฟนเก่าไม่ไหว ต้องอ่าน! 7 เทคนิคจิตวิทยาลืมแฟนเก่าแบบลบหมดใจ
หากคุณกำลังเป็นอีกคนหนึ่งที่ยังไม่ลืมแฟนเก่า ยังไม่ Move On จากรักครั้งเก่า แต่อีกคนเขา Move Out คุณออกไปจากชีวิตแล้วหรือเปล่าคะ แล้วหากเป็นความสัมพันธ์ที่คบกันมานานมาก คบกันตั้งแต่สมัยวัยรุ่น มีความตั้งใจว่าคนนี้ละคือคนที่คุณจะใช้ชีวิตด้วยตลอดไป
ซึ่งตลอดไปของคุณกับของแฟนเก่าดันไม่เท่ากัน แต่ก็นั่นละค่ะ ถ้าคุณสามารถตกลงปลงใจว่าต้องพอแค่นี้ คุณก็ควรจะจบความสัมพันธ์ลงด้วยดี แต่ปัญหามันเกิดเมื่อคนหนึ่งพร้อมไป แต่อีกคนลืมแฟนเก่าไม่ไหว ยังคิดถึงความรักครั้งเก่า มันจะคาราคาซัง จะมีการยื้อยุดจนวินาทีสุดท้าย
ซึ่งคนที่หมด Passion ในความสัมพันธ์เขาก็เสียใจไม่นาน แต่คนที่ยังไม่ลืมแฟนเก่าแบบคุณนี้สิเสียศูนย์กันเลยทีเดียว ซึ่ง Sigmund Freud บิดาจิตวิทยาสายจิตวิเคราะห์ได้อธิบายไว้ว่า การที่เราลืม หรือไม่ลืมคนรักเก่า เกิดจากความรู้สึกที่เรามีต่อความอิสระ เสรีที่เราได้จากการจบความสัมพันธ์
โดยแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือ คนที่เข้มแข็งหลังจากจบความสัมพันธ์ (ยินดีกับอิสระ เสรี ที่ได้รับ) คนแบบนี้จะ Move On ได้ไว กับคนที่รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอหลังจบความสัมพันธ์ ซึ่งคนในกลุ่มหลังนี่ละค่ะที่น่าเป็นห่วง
ดังนั้น ด้วยความห่วงใยจากดิฉัน ผู้มีประสบการณ์ทั้งเป็นผู้ที่ยังไม่ลืมเขา และฉันลืมเธอแล้ว จึงขอนำเสนอเทคนิคจิตวิทยาในการลืมแฟนเก่าแบบหมดใจ ล้างใจกันไปเลย มาฝากค่ะ
1. กลับไปอยู่กับครอบครัวสักพัก
เมื่อการเลิกกันทำให้คุณรู้สึกเคว้งคว้าง อ่อนแอ ขาดที่พึ่งพิง รู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยไม่มีเขา ก็ขอให้พาตัวเองกลับไปสู่จุด Safe Zone คือ “บ้าน” หรือครอบครัวของคุณที่มีแม่ มีพ่อ มีพ่อ มีน้อง มีสัตว์เลี้ยง ที่คุณมั่นใจว่ารักคุณแน่ ๆ รออยู่ เพื่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย ให้ใจเข้มแข็งขึ้นอีกครั้ง
หรือออกไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนรัก เพื่อนสนิท กลับไปใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักคุณ หวังดีกับคุณให้เต็มที่ เพื่อให้คุณได้ตระหนักกับตัวเองว่า คุณสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องมีเขา และยังมีคนที่รักคุณอยู่เสมอ
2. ทิ้งสิ่งของเตือนใจไปให้ไกลตา
เหตุผลหนึ่งที่คุณยังลืมแฟนเก่าไม่ได้ นั่นก็อาจเป็นเพราะคุณยังเก็บสิ่งของที่เขาให้เอาไว้อยู่ คุณยังคงกลับไปอ่านข้อความเก่า ๆ โพสต์เก่า ๆ ที่คุยกัน ยังคงไปในสถานที่ที่คุ้นเคย หรือยังคงใช้ชีวิตเหมือนตอนที่อยู่กับเขา การอยู่กับสิ่งเตือนความทรงจำเหล่านี้ บรรยากาศเดิม ๆ เช่นนี้ จะยิ่งทำให้คุณคิดถึงคนรักเก่า โหยหา และไปง้อขอให้เขากลับมา
ซึ่งการทำเช่นนั้นยิ่งทำให้คุณเจ็บ และเกิดความคิดทางลบต่อตนเองขึ้นมาเรื่อย ๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ปัญหาที่ไม่ใช่นักจิตวิทยาก็แนะนำได้ ก็คือ ทิ้งสิ่งของเตือนใจไปให้หมดเลยค่ะ จะลบ จะทิ้ง จะบริจาค จะส่งคืน ขายต่อ ก็แล้วแต่คุณตัดสินใจเลยค่ะ
3. พาตัวเองออกสู่โลกกว้าง
ข้อเสียอย่างหนึ่งเวลาที่คุณมีคนรัก ก็คือ การที่คุณต้องแบ่งปันเวลามาใช้ร่วมกัน ทำให้หลาย ๆ ครั้งคุณจำเป็นต้องเลือกว่าจะใช้เวลาเพื่อตัวเอง หรือใช้เวลาเพื่อ “เราสองคน” เพราะฉะนั้น เมื่อความสัมพันธ์จำเป็นต้องจบลง ก็ขอให้มองมุมกลับ มองหามุมบวก ว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ใช้เพื่อตัวเองจริง ๆ แล้วละ
อะไรที่อยากทำก็สามารถไปทำได้ โดยไม่ต้องห่วงอีกคนที่เคยรักกัน หรือถ้ามันเศร้าจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ก็ขอให้ฝืนพาตัวเองออกนอกห้อง ออกไปเจอผู้คนใหม่ ๆ ทำกิจกรรมใหม่ ๆ ไปเรียนรู้โลกกว้าง เปิดหู เปิดตา เปิดใจ เพื่อเติมความสดใสให้ชีวิต
4. แบ่งเวลาสร้างประโยชน์ให้สังคม
เป็นปกติที่เมื่อเลิกกับคนที่รู้สึกรักมาก หรือคบกันมานานมาก แล้วจะเกิดคำถามว่า “ฉันมีค่าแค่ไหน?” ดังนั้นเพื่อหาคำตอบให้ข้อสงสัยในคุณค่าของตัวเอง ก็ลองพิสูจน์โดยการใช้เวลาเศร้า ๆ เหงา ๆ ของคุณไปกับการสร้างประโยชน์ให้ผู้คน สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม
เช่น ไปปลูกต้นไม้แสนต้นกับท่านผู้ว่าชัชชาติ ไปสอนหนังสือเด็ก ๆ ในชุมชน อาสาดูแลผู้สูงอายุตามบ้านพักคนชรา เก็บขยะริมทะเล หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำแล้วโลกน่าอยู่มากขึ้น แล้วคุณจะได้เห็นว่า “ตัวเองมีค่า” มากกว่าที่คุณคิด
5. เมื่อคิดถึงเขา ให้รีบทำตัวไม่ว่าง
ข้อแนะนำในข้อนี้ต้องใช้สติพอสมควรทีเดียวค่ะ โดยคุณต้องรู้ทันความคิดและความรู้สึกตัวเองว่าคุณกำลังคิดถึงเขาอยู่นะ คุณกำลังเศร้าอยู่นะ เมื่อคุณรู้ทัน คุณก็ต้องรวบรวมแรงใจพาตัวเองไปทำกิจกรรม หรือออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน ซึ่งคุณจะไปคนเดียว หรือไปกับคนที่คุณรักก็ได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่อย่าปล่อยให้ตัวเองว่าง และจมอยู่กับความคิดถึงที่ไปไม่ถึง แล้วย้อนกลับมากัดกร่อนความรู้สึกของคุณ
6. พัฒนาตัวเองให้ดีกว่าเดิม
การเป็น “คนดี” ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การเป็น “คนที่ดีกว่าเดิม” ค่อนข้างยากและท้าทาย เพราะต้องอาศัยมุมมองที่คุณมีต่อตัวเองร่วมกับการสร้างแรงผลักดันในใจให้ไปเป็นคนที่คุณอยากจะเป็น ซึ่งในภาวะปกติการเป็นคนที่ดีกว่าเดิมว่ายากแล้ว และในภาวะที่ใจคุณสลายนั้นยากยิ่งกว่า แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำค่ะ เพื่อให้คุณพัฒนาตัวเองทั้งในด้านความรู้ ความคิด วิสัยทัศน์ ทัศนคติ และนิสัย เพื่อให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า
7. ทำตัวให้สดใส พร้อมเปิดรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่จะเข้ามา
ความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในที่นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ความสัมพันธ์แบบคนรัก ยังรวมถึงความสัมพันธ์แบบเพื่อน, พี่ – น้อง, ผู้ให้ – ผู้รับ, ผู้ดูแล, ผู้เรียนรู้ ซึ่งเชื่อเถอะค่ะว่าทุกความสัมพันธ์สำคัญต่อการเติบโตสู่การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบของคุณ และยังสำคัญต่อการขับเคลื่อนโลกให้มีความน่าอยู่ ดังนั้น ไม่ว่าใครจะทำร้ายคุณ ขอให้คุณยิ้มสู้ และใช้รอยยิ้มนั้นเป็นประตูที่เปิดไปสู่ผู้คนอื่น ๆ สถานที่ใหม่ ๆ เพื่อให้ชีวิตสดใส และมุ่งไปสู่อนาคตที่ดี
การอกหัก หรือต้องจบความสัมพันธ์กับใคร ไม่ใช่สิ่งบ่งชี้คุณค่าในตัวคุณ เพราะความรักเป็นเรื่องความรู้สึก ไม่ค่อยเกี่ยวกับเรื่องความเก่ง ไม่เก่ง ดี ไม่ดี รวย หรือจน ส่วนการจบความสัมพันธ์เป็นเรื่องเหตุผล และเรื่องไม่ลืมแฟนเก่าเป็นเรื่องความผูกพัน ที่จิตวิทยาช่วยได้ค่ะ คิดอะไรไม่ออกบอก iSTRONG ได้เสมอนะคะ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก คุณแม่ของลูก 1 คน แมว 1 ตัว ที่พยายามใช้ความรู้ทางจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์การทำงานด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก มาสร้างความสุขในการใช้ชีวิต ดูแลครอบครัว และการทำงาน รวมถึงมีความสุขกับการได้เห็นว่าบทความจิตวิทยาที่เขียนไปโดนใจคนอ่าน
บทความแนะนำ :
อ้างอิง : สุรพล พยอมแย้ม. (มปป.). จิตวิทยาสัมพันธภาพ. [ออนไลน์]. สืบค้นจาก https://shorturl.asia/X0FvG
Comments