6 เคล็ด (ไม่) ลับทางจิตวิทยา ในการค้นหาพรสวรรค์เด่นของลูกรัก
เด็กทุกคนมีพรสวรรค์เด่นอยู่ในตัวเองทั้งนั้น เพียงแต่ว่าพ่อ แม่ ผู้ปกครองจะช่วยให้ลูกค้นหาพรสวรรค์เด่นนั้นได้หรือไม่ ซึ่งบทความจิตวิทยานี้มีคำตอบค่ะ โดยดิฉันได้รวบรวมเทคนิคจากผู้เชี่ยวชาญจิตวิทยาเด็กในการค้นหาพรสวรรค์เด่นของลูกรักมาฝากทุกท่าน 6 เทคนิคด้วยกัน แต่ก่อนอื่นนั้นขอพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับพรสวรรค์เด่นของคนเรากันก่อนนะคะ
โดยผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาพัฒนาการได้เสนอแนวคิดว่า คนเราทุกคนสามารถมีพรสวรรค์ตั้งแต่ 1 พรสวรรค์ขึ้นไป ซึ่งพรสวรรค์ของคนเรามีถึง 6 พรสวรรค์ด้วยกัน ได้แก่
1. พรสวรรค์ด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
หมายถึง ความสามารถโดดเด่นในการรับรู้หรือแสดงออกทางภาษา โดยใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5 หากเด็กมีพรสวรรค์ในด้านภาษา จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนในช่วงอายุ 5 - 6 ปี ซึ่งแสดงออกมาใน 4 รูปแบบ คือ (1) ความสามารถด้านการฟัง คือ ความสามารถในการตั้งใจรับรู้เสียงที่ได้ยิน โดยสัมผัสทางหูและส่งผ่านไปที่สมอง เพื่อแปลความหมายให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่ได้ยิน (2) ความสามารถด้านการพูด คือ ความสามารถในการเปล่งเสียงเป็นคำ ประโยค อย่างมีความหมาย หรือแสดงออกเป็นภาษาท่าทาง เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจ (3) ความสามารถด้านการอ่าน คือ ความสามารถในการแปลความหมายจากสื่อ สัญลักษณ์ที่เห็น สิ่งของ แผ่นภาพ ตัวอักษรได้อย่างถูกต้อง และ (4) ความสามารถด้านการเขียน คือความสามารถในการบังคับกล้ามเนื้อมือให้สัมพันธ์กับตา และสามารถเขียนเป็นภาพ สัญลักษณ์ ตัวอักษรให้ผู้อื่นเข้าใจความหมาย
2. พรสวรรค์ด้านการใช้เหตุผล ((Logical – Mathematical Intelligence)
หมายถึง ความสามารถในการคิดอย่างมีเหตุผลและความสามารถในการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ใหม่ ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน โดยการให้เหตุผลเป็นองค์ประกอบสำคัญของการพัฒนาองค์ความรู้ และความสามารถในการให้เหตุผลจะทำหน้าที่สนับสนุนให้เด็กมีความสามารถเพิ่มเติมในด้านอื่น ๆ ซึ่งพรสวรรค์ด้านการใช้เหตุผลจะมีความโดดเด่นอย่างมากในช่วงอายุ 13 – 19 ปี หรือช่วงวัยรุ่น นั่นก็เพราะเป็นช่วงที่มีการพัฒนาทางเหตุผล และเป็นช่วงวัยที่ต้องการอิสระทางความคิดอย่างมาก ดังนั้นความสามารถในการให้เหตุผล จึงถือว่าเป็นพื้นฐานในการพัฒนาระดับสติปัญญาและทักษะการคิดขั้นสูง และยังช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงในอนาคตอีกด้วย
3. พรสวรรค์ด้านดนตรี (Musical Intelligence)
หมายถึง ความสามารถทางด้านการเล่นเครื่องดนตรี ขับร้อง การแยกแยะตัวโน้ต เสียงดนตรี และการใช้ประสาทการรับเสียงในการสร้างสรรค์ดนตรีในการจดจำทำนอง เรียนรู้จังหวะดนตรี จังหวะเสียง มีความสามารถในการทำความเข้าใจโครงสร้างของดนตรี มีความไวต่อเสียง สามารถแต่งท่วงทำนองจังหวะ และแต่งเนื้อร้องได้
4. พรสวรรค์ด้านกีฬา (Bodily – Kinesthetic Intelligence)
หมายถึง ความสามารถทางกายในการเคลื่อนไหวและความสามารถในการพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวจนนำไปสู่ความเชี่ยวชาญ และชำนาญในการเล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ ซึ่งประกอบด้วย (1) ความสามารถด้านทักษะเคลื่อนไหวที่หลากหลายและสามารถเลือกใช้ได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ (2) ความสามารถในการเคลื่อนไหวและสมรรถภาพทางกายที่ดี โดยสามารถพัฒนาทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬาได้เป็นอย่างดี และ (3) มีเจตคติที่ดีต่อกิจกรรมทางกาย ซึ่งนำไปสู่การเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ
5. พรสวรรค์ด้านความคิดสร้างสรรค์ (Creative thinking)
หมายถึง ความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ แล้วสามารถขยายขอบเขตความคิดออกไปจากกรอบความคิดเดิมสู่ความคิดใหม่ ๆ ความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิม มีความคิดที่หลากหลาย กว้างไกล หลายแง่หลายมุม โดยองค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ ได้แก่ ความคิดนั้นต้องเป็นสิ่งใหม่ไม่เคยมีมาก่อน (New Original) ใช้การได้ (Workable) และมีความเหมาะสม (Appropriate)
6. พรสวรรค์ด้านสังคม (Interpersonal)
หมายถึง ความสามารถในการเข้าใจอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด และเจตนาของผู้อื่น มีความสามารถในการรับรู้อารมณ์และความรู้สึกผ่านการแสดงอก น้ำเสียง หรือภาษากายของคู่สนทนา มีความเป็นมิตรสูง สามารถเข้ากับคนได้ง่าย มีความเข้ารพ ให้เกียรติในความแตกต่างระหว่างบุคคล มีความสามารถในการจัดการความขัดแย้งได้ดี เข้าใจธรรมชาติของแต่ละบุคคล และสามารถทำงานเป็นกลุ่มได้ดี
ทั้งนี้ เคล็ดไม่ลับในการค้นหาพรสวรรค์เด่นของลูกรักนั้นทำได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องอาศัยเวลาในการอยู่กับลูก และความใกล้ชิดสนิมสนม รวมถึงเทคนิคที่ผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาได้แนะนำไว้ 6 ข้อดังนี้ค่ะ
1. สังเกตพฤติกรรมของลูก
ข้อแรกที่นักจิตวิทยาแนะนำ ก็คือ ใช้เวลาอยู่กับลูกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วสังเกตดูว่าลูกชอบทำกิจกรรมไหนมากที่สุด หรือพูดถึงเรื่องไหนมากที่สุด หรือให้ความสนใจต่อสิ่งไหนมากที่สุด เช่น วาดภาพ เล่นกับเพื่อน เล่นดนตรี แล้วลองส่งเสริมสิ่งนั้นให้กับลูก เช่น เรียนพิเศษเพิ่มเติม พาไปเข้าคอร์สเฉพาะทาง หากลูกรู้สึกชอบ สนุกที่ได้ทำ และมีฝีมือพัฒนาขึ้น แสดงว่าลูกมีพรสวรรค์ในด้านนั้น ๆ อยู่ค่ะ
2. เพิ่มโอกาสให้ลูกมีประสบการณ์ชีวิต
การสนับสนุนให้ลูกได้ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านร่วมกับเพื่อน หรือร่วมกับครอบครัว นอกจากจะส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและสังคมแล้ว ยังช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตัวเอง เรียนรู้การแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง และได้รู้จักตนเองมากยิ่งขึ้นค่ะ
3. ให้ลูกเลือกและมีอิสระในการลงมือทำ
การให้อิสระแก่ลูกในการเลือกทำกิจกรรมด้วยตนเอง นอกจากจะเป็นการส่งเสริมให้เขาได้แสดงพรสวรรค์ออกมาแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้เขากล้าคิด กล้าตัดสินใจ และมีความมั่นใจในตนเองมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างตัวตนที่แข็งแกร่งให้แก่เขาในอนาคตได้ค่ะ
4. สนับสนุนให้ลูกกล้าแสดงออก
นอกจากเราจะมอบประสบการณ์ และองค์ความรู้ให้แก่ลูกของเราแล้ว เคล็ดลับสำคัญในการค้นหาพรสวรรค์ของลูก ก็คือ การให้กำลังใจและแสดงความมั่นใจว่าเราเชื่อมั่นในตัวเขา เชื่อมั่นในศักยภาพของเขา และสนับสนุนให้เขาแสดงพลัง แสดงความสามารถออกมา เมื่อเขาเห็นว่าเราชื่นชมในความสามารถของเขา เขาจะกล้าแสดงความสามารถออกมาค่ะ
5. เข้าใจธรรมชาติของลูก
คนเราทุกคนย่อมมีธรรมชาติเป็นของตนเอง หากเราสามารถทำความเข้าใจได้ว่าธรรมชาติของลูกเป็นอย่างไร เราก็จะมีแนวทางในการพูดคุยกับเขา เข้าหาเขา สนับสนุนเขาได้ถูกทาง โดยไม่ฝืน ไม่บังคับลูก และส่งเสริมสนับสนุนในทางที่เป็นตัวตนของลูกได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสม
6. มีความหวัง แต่อย่าคาดหวัง
ปัญหาใหญ่ที่ทำให้ลูกวัยรุ่นมักจะทะเลาะกับพ่อ แม่ ก็คือ พ่อ แม่ คาดหวังในตัวของลูกมากเกินไป และเป็นความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความต้องการของเขา เช่น หลายครอบครัวมีการส่งต่ออาชีพในครอบครัว ทั้ง ๆ ที่อาชีพไม่ได้สืบต่อกันทาง DNA ซึ่งนั้นเป็นการตัดโอกาสของลูกในการที่เดินทางตามความฝันของตัวเอง หรือเป็นตัวของัวเองได้ เพราะถูกความคาดหวังของพ่อแม่กดทับอยู่นั่นเอง
การที่พ่อ แม่ หรือผู้ปกครองอย่างเราสนับสนุนให้ลูกมีความสามารถตามการค้นหาพรสวรรค์เด่นของเขานั้น นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพจิตเด็กในปัจจุบันแล้ว ยังส่งผลดีอย่างมากต่อการเห็นคุณค่าตนเอง (Self-Esteem) ของลูกรักเมื่อเขาเข้าสู่วัยรุ่น และถ้าเรายังคงสนับสนุนเขาต่อไปอย่างสม่ำเสมอ เขาก็สามารถเติบF9ขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและมีความแข็งแกร่งในการใช้ชีวิตต่อไปค่ะ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
บทความแนะนำ :
อ้างอิง :
1. วิชัย วงษ์ใหญ่. (2554). เด็กที่มีความสามารถพิเศษ. กรุงเทพมหานคร : สาขาการวิจัยและพัฒนาหลักสูตร บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
2. อภิวัฒน์ ปานทอง อริญชย์ พรหมเทพ นพรักษ์ แกสมาน วีรวัฒน์ ค าแสนพันธ์ และจีรวัฒน์ สัทธรรม. (2560). การวางแผนระยะยาวสำหรับพัฒนานักกีฬา. วารสารบัณฑิตศึกษา ปีที่ 14 ฉบับที่ 64 มกราคม – มีนาคม 2560. 17.
ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก อดีตนักจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก บัณฑิตจิตวิทยาคลินิก เกียรตินิยมอันดับ 2 จากรั้ว มช. และมหาบัณฑิตจาก NIDA ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูก 1 ผู้เป็นทาสแมว ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาการเขียนบทความจิตวิทยาให้โดนใจผู้อ่าน และสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกบนโลกใบนี้
Comments