ทำอย่างไรเมื่อเด็กเครียดไม่แพ้ผู้ใหญ่ในสถานการณ์ COVID-19
ผลกระทบจาก COVID-19 ส่งผลต่อความเครียดของเด็กไม่แพ้ผู้ใหญ่ จากผลการสำรวจ พบว่าเด็กไทยกว่า 85% มีความกังวลในเรื่องสถานการณ์การเงินของครอบครัวตัวเอง เนื่องจากปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของคนในสังคมขับเคลื่อนด้วยเงิน จากค่าใช้จ่ายรอบด้านที่ผู้ปกครองจะต้องแบกรับที่ได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้หลายครอบครัวมีปัญหาด้านการเงิน การงาน และยังมีเด็กหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านการเงินเพื่อเตรียมศึกษาต่อ รองลงมาคือ ความเครียด ความเบื่อหน่าย ที่เด็กไม่สามารถไปไหนมาไหนได้ตามต้องการ จากที่เคยเล่นได้อย่างอิสระก็ต้องมีข้อจำกัด อีกทั้งโรงเรียนสอนพิเศษที่ปิดตัวลง ทำให้ความเครียดของผู้ปกครองตามมาอีกด้วยค่ะ
บทความแนะนำ "5 อาการหนักอกหนักใจ ที่นักจิตวิทยาช่วยคุณได้"
เพราะครอบครัวคือคนสำคัญในช่วงเวลาที่เด็กต้องเผชิญกับวิกฤตอย่าง COVID-19 ดั้งนั้น การเปลี่ยนแปลงรอบด้านที่ผู้ใหญ่ต้องปรับตัว เด็กก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน เพราะเด็กเองมีความเครียดซึ่งไม่แพ้ผู้ใหญ่ ทั้งจากสภาพทางการเงินของผู้ปกครอง รวมไปถึงสภาพจิตใจที่ทุกคนจะต้องพบเจอ ดังนั้น ช่วงเวลาที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 นี้จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนจะต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกันให้ดีค่ะ ด้วยการเปิดอกคุยกัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน สำหรับช่วงเวลานี้อาจทำให้บางครอบครัวได้มีโอกาสอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตา เป็นครอบครัวใหญ่ก็อาจจะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างวัยได้ อย่างไรกำลังใจ ความรัก ความใส่ใจของคนในครอบครัวก็คือสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ วันนี้กวางจึงมีวิธีรับมือกับ ความเครียดในเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 มาฝากคุณเพื่อเป็นประโยชน์กับเด็ก ๆ มาฝากกันค่ะ
7 วิธีรับมือกับความเครียดในเด็กที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19
1. เปิดอกคุยกันในครอบครัว
การเปิดอกคุยกันของคนในครอบครัวเป็นการแสดงออกถึงความจริงใจที่ไม่ต้องมีอะไรปิดบังกัน อย่างแรก คือ ความสบายใจ ความไว้วางใจที่ทุกคนจะได้รับและทลายปัญหาบางอย่างลงได้
2. สอบถามถึงความต้องการของเด็ก
ในสถานการณ์ที่บางอย่างดูมีข้อจำกัดอาจทำให้เด็กเกิดความอึดอัดได้
ดังนั้นผู้ปกครองควรสอบถามถึงความต้องการของเด็กด้วยนะคะ
3. รับรู้ว่าเด็กกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่
แสดงถึงความจริงใจและไว้วางใจได้ว่าตอนนี้เด็กกำลังประสบปัญหาอะไรอยู่ เพราะบางครั้งเด็กอาจมี ความเครียด ความกังวล หรือ ความกดดันจากสถานการณ์รอบด้านก็ได้ค่ะ
4. ค้นหาแนวทางในการแก้ไขร่วมกัน
จากนั้นเปิดโอกาสให้เด็กได้มีส่วนร่วมเพื่อค้นหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน
บทความแนะนำ "5 วิธีเตรียมพร้อมรับมือโลกหลังวิกฤต COVID-19 ได้"
5. ชวนให้เด็กทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกัน
การทำกิจกรรมร่วมกันเป็นการสารสัมพันธ์และคลายความเครียดลงไปได้ ลองหันมาทำกิจกรรมสนุกร่วมกันกับคนในครอบครัวดูสิคะไม่ว่าจะเป็น การทำอาหาร การปลูกต้นไม้ การทำความสะอาดบ้าน เป็นต้นค่ะ
6. ชวนให้เด็กเรียนรู้สิ่งใหม่
ทุกวันนี้การเรียนรู้ไม่ใช่สิ่งไกลตัวหรือน่าเบื่ออีกต่อไป มีระบบการเรียนหลายรูปแบบที่เด็กสามารถเรียนรู้ได้ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือจากผู้ปกครองเองค่ะ
7. สร้างประสบการใหม่ในช่วง Work From Home
ในช่วงเวลาที่ทุกคนอยู่บ้านลองหาบางอย่างที่ทุกคนจะสามารถสร้างเสริมประสบการณ์ร่วมกันดูสิคะ อาจทำให้คุณประทับใจและจดจำไม่รู้ลืมจากช่วงสถานการณ์ COVID-19 นี้ก็ได้ค่ะ
จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ทุกคนต่างต้องเผชิญสร้างความเครียดให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองก็อย่าลืมใส่ใจความรู้สึกของเด็กให้มากขึ้นด้วยการหมั่นสังเกต ซักถาม ให้กำลังใจ และ รับฟังปัญหาอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ
สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ
iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่
iSTRONG Mental Health
ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร
บริการของเรา
สำหรับบุคคลทั่วไป
• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa
• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS
สำหรับองค์กร
• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8
โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong
Comments