top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

9 สัญญาณคุณโดน "Bully" ในที่ทำงาน

การ bully ในที่ทำงานเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของพนักงาน รวมไปถึงส่งผล กระทบต่อองค์กรเป็นอย่างมาก บทความนี้ ขอนำเสนอตัวอย่างพฤติกรรมเพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจและเห็นภาพชัดเจนขึ้น และรวบรวมวิธีในการรับมือ การถูก bully ในที่ทำงานมาฝากด้วยค่ะ

แอน (นามสมมุติ) เป็นพนักงานที่เพิ่งเริ่มทำงานได้หนึ่งปี ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาตั้งใจทำงาน และ ทำงานหนักมาก มักจะกลับบ้านดึกๆ อยู่เสมอ หัวหน้าของแอน ชื่อ โรส (นามสมมุติ) เธอชอบตะโกนใส่แอนในห้องประชุม และ โทรหาแอน นอกเวลางาน เพื่อสั่งงานอยู่เป็นประจำ นอกจากนี้ โรส ยังชอบพูดจากระแนะกระแหน ว่า แอน ควรทำงานหนักกว่านี้เป็นประจำ และ บอกว่า เด็กจบใหม่จะต้องอดทน เพื่อความก้าวหน้า และ เพื่อเรียนรู้ทักษะให้เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา แอน มักจะรู้สึกปวดหัวบ่อยๆ น้ำหนักลดลง มีอาการท้องเสีย และเริ่มไม่มีสมาธิในการทำงาน

ต้อง (นามสมมุติ) ทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เธอทำงานที่นี่มา 7 ปีแล้ว และมีรายได้ที่เพียงพอในการเลี้ยงดู ตัวเอง และ ลูก เนื่องจาก ต้อง เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เธอไม่สามารถที่จะตกงานได้ เนื่องจากเป็นคนเดียวที่ต้องหารายได้ในการเลี้ยงดูลูก อยู่มาวันหนึ่ง ที่ร้านก็รับ แป้ง (นามสมมุติ) เข้ามาทำงานในตำแหน่งแคชเชียร์เช่นกัน แป้ง เด็กกว่า มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และ เรียนรู้เร็วกว่าต้องมาก แป้ง ชอบพูดเรื่องตลก และมัก แซวต้อง เพื่อสร้างความตลกเสมอ เช่น การแซวว่า ต้อง อ้วน ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องรู้สึกแย่ และ พยายามที่จะลดน้ำหนักมาเสมอ หลังจากที่แป้งมาทำงานได้ไม่นาน ต้องรู้สึกว่า แป้งกำลังพยายามสร้างพวก และ กันตัวเธอออกไป โดยการชวนเพื่อนๆ ร่วมงานไปสังสรรค์ต่อหลังเลิกงาน แต่ไม่เคยชวนเธอ ทำให้ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว นอนไม่หลับ รู้สึกวิตกกังวล และไม่มีความสุขในการทำงานอีกต่อไป

จากเรื่องราวของทั้ง แอน และ ต้อง เราจะเห็นได้ว่า คนสองคนนี้ตกเป็นเหยื่อของการ Bully ในที่ทำงาน ซึ่งปัญหานี้พบในคนทำงานถึงประมาณ 65 ล้านคน

Bully คือ พฤติกรรมที่คนคนหนึ่งจงใจที่จะทำ เพื่อทำให้อีกคนหนึ่งรู้สึกทุกข์ใจ ไม่มีความสุข อับอาย ซึ่งอาจเป็นพฤติกรรมของคนคนเดียว หรือ กลุ่มคน ก็ได้ พฤติกรรม Bully นี้สามารถเป็นได้ ทั้งการกระทำ และ คำพูด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ถูก bully ในระยะยาว

คนที่ถูก Bully ถูกทำร้ายทั้งทางร่างกาย และ จิตใจ ความรู้สึกโกรธที่เกิดขึ้นพร้อมที่จะระเบิดเมื่อไรก็ได้ ไม่ว่าจะโดยตรงกับคนที่ถูก Bully หรือคนใกล้ตัว

สัญญาณต่อไปนี้ เป็นสัญญาณที่กำลังบ่งบอกว่า คุณกำลังถูก Bully

1. เป็นเป้าหมายให้คนอื่นกลั่นแกล้ง พูดแซวเกี่ยวกับตัวเราในทางตลกขบขัน

2. ถูกขอให้ทำงานหนักจนเกินไป หรือ ให้ทำงานที่ง่ายจนเกินไปตลอดเวลา

3. ขอให้เราลาพักร้อนในระยะเวลานานๆ หรือ ให้ทำงานในกะไหนก็ได้ โดยไม่สนใจความจำเป็นของเรา

4. ถูกควบคุมการทำงานอย่างใกล้ชิด และ ถ้าทำไม่ดี ไม่ถูกใจ ก็จะถูกลงโทษ หรือว่ากล่าวอย่างรุนแรง

5. ไม่ให้เครื่องมือ หรือ คนที่จะช่วยเราในการทำงาน เพื่อให้งานที่มอบหมาย เสร็จลุล่วงได้ตามแผนการ

6. ขู่ว่าจะลดตำแหน่งหากทำงานพลาด หรือ ไม่เป็นที่พึงพอใจ

7. ถูกแยกออกจากกลุ่มเพื่อนร่วมงาน ให้อยู่คนเดียว

8. ถูกนินทา หรือ มีข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับตัวเอง

9. ถูกทำให้อับอายต่อหน้าคนอื่น

นี่เป็นพฤติกรรมของการ bully ส่วนหนึ่งซึ่งผู้กระทำสามารถเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็น หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่ลูกน้องก็ตาม ซึ่งส่วนมากแล้ว คนทำงานส่วนใหญ่มักที่จะพยายามมองข้ามสัญญาณต่างๆ ที่ได้กล่าวไปข้างต้น

อย่างไรก็ได้ พฤติกรรม bully มีผลกระทบในด้านลบอย่างมาก ไม่ว่าจะต่อ พนักงาน หรือ นายจ้างก็ตาม พนักงานที่ถูก bully อาจมีอาการดังต่อไปนี้

- ความชื่นชอบในตัวเองต่ำลง (low self-esteem)

- วิตกกังวล

- ซึมเศร้า

- เครียด

- เหนื่อยล้า (burnout)

- อ่อนเพลีย

- มีอาการความเครียดหลังเหตุการณ์รุนแรง (Post Traumatic Stress Disorder)

- ปวดศรีษะ

- อาการของโรคหัวใจและหลอดเลือด

- ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก

- ฆ่าตัวตาย

ผลกระทบที่มีต่อนายจ้าง หรือ องค์กร ได้แก่

- สูญเสียความรู้สึกผิดชอบชั่วดี

- สูญเสียประสิทธิภาพ

- สูญเสียประสิทธิผล

- มีจำนวนพนักงานที่ลาป่วยสูงขึ้น

- มีจำนวนพนักงานที่ลาออกเพิ่มมากขึ้น

- จำนวนพนักงานลดลง

- โอกาสในการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

คุณจะต้องทำอย่างไร ถ้าคุณตกเป็นเหยื่อของการถูก bully

- ให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นช่วยเหลือ

- บอกให้หัวหน้ารับทราบถึงพฤติกรรมการ bully ที่เกิดขึ้น

- จดบันทึกรายละเอียดของพฤติกรรม วันที่ เวลา และ พยาน

- แจ้งตำรวจ หรือ ฝ่ายบุคคล เพื่อทำการสอบสวน

ทำอย่างไร ที่จะปกป้องตัวเราจากการถูก bully

- ขอคำแนะนำและความช่วยเหลือจากคนอื่น

- ไม่สนใจพฤติกรรม bully และ พยายามหลีกเลี่ยงคนที่ bully หรือ เผชิญหน้ากับเขาอย่างตรงไปตรงมา

- การเปลี่ยนความคิด ว่า เราเป็นคนที่สามารถควบคุมและจัดการชีวิตของเราได้ เราไม่ใช่เหยื่อ สามารถที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของการ bully ได้

อย่างไรก็ดี หากเรารู้สึกว่ามีความทุกข์จากการถูก bully การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อช่วยเหลือ เยียวยาจิตใจของเราก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่แนะนำนะคะ


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ

iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรม การเป็นนักจิตวิทยาให้คำปรึกษา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8


โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

ประวัติผู้เขียน : อังคณา เกิดทองมี

ศึกษาด้านศิลปศาศตรมหาบัณฑิต (M.A.) สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต (B.Eng.) สาขาวิชาวิศวกรรมอุตสาหการ มหาวิทยาลัยศิลปากร, และ Diploma of International E-Business, Hove College, Brighton, UK

มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งวิศวกรในบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ขั้นนำของโลกมากกว่า 5 ปี ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัทด้าน Data Science และเขียนบทความด้านจิตวิทยาให้กับบริษัท iStrong

コメント


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page