ใช้ภาษากายอย่างไรให้คุณได้เปรียบ เป็นผู้นำ และก้าวหน้าเร็ว
ภาษากาย หรือ อวัจนภาษา คือภาษาที่ปรากฎออกมาทางท่าทาง และหลาย ๆ ศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นจิตวิทยา สังคมศาสตร์ หรือแม่แต่ศาสตร์ทางการแพทย์เอง ต่างก็ให้ความสำคัญกับภาษากายมากกว่าภาษาพูด เพราะการแสดงออกทางร่างกายเป็นสิ่งที่สั่งตรงมาจากทางสมอง เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ หรือพูดอีกนัยก็คือ การแสดงออกทางภาษากายโกหกได้ยากกว่าภาษาพูด
คุณผู้อ่านเคยสังเกตหรือไม่คะว่าทำไมคนที่มี Profileใกล้เคียงกัน แต่มีบุคลิกภาพหรือการแสดงออกทางต่างกัน มักจะได้รับความนิยมจากผู้คนรอบข้างแตกต่างกันไปด้วย หรือคุณผู้อ่านเคยสงสัยหรือไม่ ทำไมเราถึงชอบหรือไม่ชอบใครสักคนเพียงแค่เจอกันครั้งแรกได้เลย สี่งที่เป็นสาเหตุของเรื่องเหล่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากสิ่งที่เราเรียกว่า “ภาษากาย” นั้นเอง
ภาษากาย ส่งอิทธิพลต่อชีวิตของเราอย่างไรนั้น Amy Cuddy หรือ Amy Joy Casselberry Cuddy นักจิตวิทยาสังคมชื่อดังชาวอเมริกา ได้บรรยายเกี่ยวกับการเปลี่ยนภาษากายเปลี่ยนชีวิต ไว้ว่า คนเราส่วนใหญ่แล้วมักตัดสินและสันนิษฐานลักษณะของคนอื่นจากภาษากาย ซึ่งการตัดสินดังกล่าว สามารถส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของคนๆนั้นได้เลยทีเดียว เช่น ในการสัมภาษณ์งาน ผู้ว่าจ้างยอมให้ความสนใจต่อผู้ที่แสดงออกอย่างเป็นมิตร ยิ้มแย้ม ดูสง่า มากกว่าคนที่หน้าบึ้ง นั่งไหล่ห้อ หน้างอ คอหัก อย่างแน่นอน
ซึ่งการบรรยายของ Cuddy สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Nalini Ambady นักวิจัยที่ Tufts University โดยได้ให้กลุ่มตัวอย่างดูคลิปวิดีโอที่มีความยาว 30 วินาที ที่ไม่มีเสียงพูด ของการปฏิสัมพันธ์จริงระหว่างแพทย์กับคนไข้ พบว่า แพทย์ที่กลุ่มตัวอย่างโหวตว่า “เป็นแพทย์ที่ดี” คือแพทย์ที่ดูท่าทางใจดี เป็นมิตร ยิ้มแย้ม ในทางกลับกัน “แพทย์ที่น่าจะถูกฟ้องมากที่สุด” คนที่กลุ่มตัวอย่างเลือกก็คือ แพทย์ที่ดูดุ หน้าบึ้ง
นอกจากนี้ Alex Todorov จาก Princeton ได้แสดงให้เห็นว่า การตัดสินจากใบหน้า ของผู้เข้าสมัครชิงตำแหน่งการเมือง ภายในหนึ่งวินาที ก็สามารถทำนายผล การเลือกตั้งวุฒิสภาและการเลือกตั้งผู้ว่าการรัฐได้แม่นถึง 70% และแม้แต่ในโลกดิจิตอล การใช้อีโมติคอนอย่างเหมาะสมในการเจรจาออนไลน์ สามารถทำกำไรให้ผู้ค้าจากการเจรจานั้นได้มากกว่า
ดังนั้น จึงสามารถกล่าวได้ว่า หากเราเปลี่ยนการใช้อวัจนภาษา ชีวิต ตัวตน และความคิดของเราจะเปลี่ยนไปด้วย โดยธรรมชาติสิ่งมีชีวิตต้องการเพื่อใช้ในการดำรงชีพมากที่สุด ก็คือ “พลังอำนาจ” นั้นก็คือ การทำให้ตัวเองตัวใหญ่ โดยการยืดอกให้ผึ่งผาย ยืนหลังตรง เปิดตัวเองออกมาเผชิญหน้าผู้คน แล้วเราจะมีออร่าของพลัง เกิดความรู้สึกว่ามีอำนาจ มีความมั่นใจ แล้วการทำสิ่งต่างๆจะเป็นไปอย่างราบรื่นเพราะเรามีความมุ่งมันจากกำลังใจที่เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่เราส่วนใหญ่แสดงออกโดยปกติ ก็คือ เมื่อเราไปอยู่ในสถานการณ์ที่รู้สึกได้ว่ามีคนที่มีอำนาจมากกว่าเรา เราจะห่อตัวเล็กลง ทำตัวลีบๆ เหมือนทำให้ตัวเองไร้ตัวตน
ผลที่ตามมาจากการสังเกตของ Cuddy ก็คือ ในชั้นเรียนบริหารธุรกิจที่ Cuddy เป็นอาจารย์สอน เธอพบว่า นักเรียนบางคนที่ทำตัวเป็นผู้นำ มักจะปราดเข้ามาในห้อง จับจองที่นั่งตรงกลางห้อง และจะแผ่ขยายตัวเอง จนทำให้คนอื่นๆ ตัวลีบจนแทบจะหดหายไปเลย ซึ่งพวกคนที่เหลือพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดปัญหาเรื่องช่องว่างของเกรดที่เกิดจากเด็กที่แสดงออกชัดเจนว่ามั่นใจในตนเอง กับเด็กที่เกือบจะไร้ตัวตนในห้อง เพราะคะแนนส่วนหนึ่งมาจากการมีส่วนร่วมในห้องเรียน และคนที่เค้าแสดงออกว่ามั่นใจย่อมได้เปรียบในข้อนี้
ดังนั้น Cuddy จึงได้ทำการศึกษาเชิงทดลอง พบว่า หากเรา “แสร้งทำ” ท่าที่มีอำนาจ คือ ยืนหลังตรง ไหล่ผาย เปิดใบหน้ามองคู่สนทนา ยืนเต็มเท้า พบว่า กลุ่มคนที่แสดงท่ามีอำนาจเป็นเวลา 2 นาที มากกว่า 86% มีความมั่นใจในตนเองมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ หากคุณผู้อ่านต้องการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตนเองอย่างเร่งด่วน ลอง “แสร้งทำ” ท่าที่ มีอำนาจ เช่น ยืนหลังตรง ไหล่ผาย เปิดใบหน้ามองคู่สนทนา ยืนเต็มเท้า รับรองได้เลยว่าคุณผู้อ่านจะรู้สึกว่าตนเองมีอำนาจ มีพลัง มีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆอย่างแน่นอน และขอให้การ “แสร้งทำ” นั้นติดตัวคุณ จนกลายเป็นตัวคุณอย่างแท้จริง รับรองเลยว่าหากคุณผู้อ่านสามารถเปลี่ยนภาษากายได้ ชีวิตคุณผู้อ่านจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน
อ้างอิง:
https://www.ted.com/talks/amy_cuddy_your_body_language_shapes_who_you_are/transcript#t-203529
____________________________________________________
iStrong.co ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว
บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง
สามารถเลือกคุยทางโทรศัพท์หรือการพูดคุยแบบส่วนตัว (Private Counseling)
และคอร์สออนไลน์ | Classroom Workshop
รวมถึงบทความจิตวิทยาอีกมากมาย
Contact : https://www.istrong.co/service
Comments