6 ขั้นตอนที่ต้องเจอ เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิต
6 สัญญาณที่จะมาเล่าสู่กันฟังในครั้งนี้ เป็น 6 สัญญาณที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน เป็นเรื่องใกล้ตัวมากที่อยากให้ทุกคนลองสังเกตุตัวเองดู ว่าตอนนี้เรากำลัง ชิน-ชา หรือ Change อยู่กันแน่ และสาเหตุที่ห่างหน้าหายตาไปหลายเดือน เพราะได้ลองทำการทดลองกับตัวเองบางอย่าง ว่าจากสัญญาณ Stages of Change Model ของ Dr. Lickerman's จาก Happiness in this World ได้บอกไว้นั้น มันจะเป็นแค่ทฤษฎีลอยๆ หรือเป็นของจริงกันแน่ กับ Stages ต่างๆนี้
1. ช่วงชิลด์ (Pre-Contemplation)
แปลอย่างเป็นทางการ แปลว่า เป็นช่วงก่อนที่จะมีการคิดพิจารณาอย่างไตร่ตรอง แต่สำหรับเราแปลง่ายๆ เลยว่าเป็นช่วงที่เรายังไม่ทันได้คิดอะไร หรือบางคนอาจจะเรียกว่ามันเป็นส่วนที่เป็น Comfort Zone เพราะเป็นช่วงที่เราอยู่อย่างสบาย แบบอยู่ไปไม่ต้องคิดอะไร อยู่ไปได้เรื่อยๆ อยู่ได้อย่างสบายชิลด์ๆ มากๆ เลย
ตัวอย่างเป็นไปได้ในหลากกลายรูปแบบ เช่น ถ้าเป็นเรื่องการทำงาน มันคือการที่ได้ย้ายมาทำงานในบริษัทใหม่ อะไร ๆ ก็ดี สวยงาม ดูดีไปหมด แหม...เรานี่ช่างโชคดีจริงๆ เป็นช่วงแห่งการค้นหา เจอแต่สิ่งใหม่ๆน่าตื่นเต้น หรือ
สำหรับคนอื่นๆ มันคือช่วงที่เรากำลังอิ่มเอมกับบุฟเฟ่ต์ เอนจอยกับบิงชู หรือ
แม้แต่คนที่เคยชินกับพฤติกรรมของตัวเอง เช่นการดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่ มันคือการที่เราชินกับการคาบบุหรี่ ทุกครั้งก่อนขึ้นรถ หรือ ลงรถ หรือ การดื่มเหล้าทุกครั้งที่ทานอาหาร
2. ช่วงใช่ (Contemplation)
หรือแปลอย่างเป็นทางการว่าเป็นช่วงที่มีการคิดพิจารณาอย่างไตร่ตรองดีแล้ว หรือเรียกได้ว่า เป็นช่วงที่เริ่มตกผลึก เริ่มคิด เริ่มเอ๊ะ ว่ามันมีอะไรบางอย่างแปลกๆ แต่ยังไม่แน่ใจ เราอาจจะคิดมากไปเอง หรือ อาจจะเพราะเรายังไม่ชิน เริ่มมีคนเตือนโน้นนี่ เราเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างได้ด้วยตัวเอง เริ่มคิดบ้าง เป็นแว้บๆ ว่ามันใช่รึเปล่านะ หรือ เราควรจะเปลี่ยน ไม่หรอกน่า ที่เราทำอยู่มันดีอยู่แล้ว
ถ้าเป็นเรื่องงาน มันคือการที่บอกตัวเองว่า ที่ทำงานที่ไหนก็เป็นแบบนี้แหละ คิดมากไปได้ ทำๆ ไปเหอะ ไม่ทำที่นี่ ทำที่ไหนก็เจอเหมือนกัน ไม่ปัญหาเรื่องคน ก็เรื่องงาน คนมาเตือนก็อิจฉาเราไง ที่เราสังเกตเห็นเอง ก็เพราะคิดมาก ไม่มีอะไรหรอกน่า ไม่คิดก็จบเรื่อง ....พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว
สำหรับเรื่องสุขภาพ .... น้ำหนักตัวเริ่มขึ้น ทำไมล่ะ ก็กินเหมือนเดิมนี่น่า เดี๋ยวลดหน่อยก็น่าจะดี แต่ทำไมลดไม่ได้นะ แต่เดี๋ยวทานผักสักสองวันก็น่าจะน้ำหนักลด ไม่กินบุฟเฟ่ต์สักอาทิตย์ก็ได้ แต่พอเพื่อนชวนก็ขัดไม่ได้ให้ทำยังไงนะ
เรื่องพฤติกรรม ก็มันชินนี่น่า ให้ทำยังไง ไม่สูบบุหรี่แล้วมันหงุดหงิด ไม่รู้จะทำอะไร มือมันเหงา มันว่าง ก็ไม่ได้อยากจะสูบหรอก รู้ว่าสูบแล้วไม่ดี เหล้าก็พยายามจะลดแล้ว แต่ดื่มอะไรก็ไม่สุดเท่าดื่มเหล้านี่น่า
3. ช่วงชัด (Determination)
หรือเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจล่ะ เพราะจะผ่านช่วงคิดมาสักระยะนึง จนเกิดความอึดอัด ว่าความแปลกมันครอบงำเรามานานพอควร บางครั้งมันอาจจะกินเวลานาน หากมันเลย 21 วันตามทฤษฎี 21 วันเปลี่ยนนิสัย มันจะทำให้เรา “ชิน และ ชา” ไปได้ .... แต่นี่แหละ เราก็พยายามจะลองพิสูจน์ทฤษฎี ว่าความที่เราเป็นคน Alert ไม่น่าจะ “ชิน และ ชา” อะไรไปได้ง่ายๆ เราเลยเลือกที่จะ “CHANGE” อันนี้พีค เพราะมันต้องเลือก ว่าเราจะทำยังไง อารมณ์ว่าถ้าเป็นช่วงจีบกัน ตอนนี้ก็ตัดสินใจล่ะ ถ้าไม่ขอเราเป็นแฟน เรานี่แหละต้องขอมันเป็นแฟนเราล่ะ!!!!
ดังนั้นกับเรื่องงาน คือการบอกรัก หรือ บอกเลิกกับงานที่ทำ ว่ามันใช่ มันชอบ หรือว่าบอกลา เพราะถ้างานที่ใช่จะมีวิธีดูไม่ยาก สำหรับเรา เราใช้มากับตัวเองกับการเปลี่ยนงานมา 4-5 ที่ล่ะ ถ้าที่ทำงานไหนเราดูเวลาเกินวันละ 4-5 ที ต่อวัน เกินอาทิตย์ละ 3 วัน แปลว่างานนั้นเริ่มไม่ใช่สำหรับเราแล้ว เพราะถ้างานที่ใช่ เราจะแฮปปี้กับมันจนไม่มีเวลาดูเวลาเลยทีเดียว แต่ถ้างานนั้นไม่ใช่ เราจะคอยมองเวลา เพื่อดูว่า เมื่อไรจะเที่ยง เมื่อไรจะเย็น .... ดังนั้น อย่าปล่อยให้ “ชิน และ ชา” เลือกที่จะ “CHANGE” กันไป
เรื่องสุขภาพ ก็เช่นกัน “CHANGE” กันไป อย่าไปกลัว ... สมัยนี้ สิ่งอำนวยความสะดวกมีมากมาย แค่ลดบุฟเฟ่ต์ เพิ่มอาหารคลีน หรือ เลือกกินบุฟเฟ่ต์อาหารเวียดนาม หรือ เลือกทานเยอะ แต่ก็ออกกำลังกาย มวยไทย ว่ายน้ำ แจ๊สแดนซ์ เทควันโด มากมาย ล้วนแล้วแต่ให้เผาผลาญพลังงานทั้งนั้น เลือกที่จะ “CHANGE” อย่าปล่อยให้ “ชิน และ ชา”
สำหรับสิงห์ดมควันและคอทองแดงเช่นกัน ถ้ายังคงพฤติกรรมเดิมๆ ให้มัน “ชิน และ ชา” และไม่ “CHANGE” สุดท้ายจะเป็นยังไง อันนี้รู้อยู่แล้ว ไม่ต้องบอก ดังนั้นถ้ารักตัวเอง รักคนรอบข้าง “CHANGE” เถอะคะ เชื่อเถอะ นอกจากจะเป็นการทำเพื่อตัวเองแล้ว ครอบครัวและคนที่คุณรักและรักคุณจะพลอยดีใจไปด้วยมากๆ “CHANGE” นะคะ
4.ทำสิคะ จะรออะไร (Action)
ช่วงนี้มักเป็นช่วงที่ต้องลงมือทำ เพราะเมื่อมันพีค มันต้องทำ เมื่อคิดได้ ต้องลงมือ ปฏิบัติเลย ไม่ใช่แค่ชั้นคิดได้ ชั้นสบาย ชั้นมีความสุขแล้ว ไม่ได้คะ ทุกอย่างไม่ได้ลอยมาเหมือนในการ์ตูน อันนั้นโลกสวยเลย อันนี้โลกแห่งความเป็นจริง ... ตื่นแล้วกลับมาคะ เราต้องลงมือทำ
คิดว่าอยากได้งานใหม่ ถ้าเป็น Mid-career และพอมีเพื่อน มีมือถือ มีไลน์ บอกไปคะ สามบ้านแปดบ้าน บอกเค้าไปคะว่าคุณ Open opportunity แล้ว มีงานที่ไหนเรียกด้วย พร้อมเปิดตัวเปิดใจแล้ว แล้วคุณจะพบโลกใหม่ที่พร้อมให้คุณไปแสวงหา ค้นพบตัวเอง
คิดอยากมีสุขภาพดีๆ เปิด FB, IG แล้ว search #Cleanfood #Exercise #ExerciseAtHome หาไปเรื่อยๆ ที่ไหนมีอาหารไม่แพง และดูคลีน ท่าออกกำลังกายไหนดูเหมาะกับเรา จัดมาเลยคะ ถ้ากลัวไม่หนำใจ ชวนเพื่อนคะ จะได้มีกำลังใจ หรือจะ Live สดให้เพื่อนๆดูและมาให้กำลังใจเราก็ไม่ว่ากันคะ ยุคนี้แล้วกำลังใจสำคัญคะ จะได้สวย สตรองไปด้วยกันคะ
บุหรี่ เหล้า หมดซองนี้ หมดขวดนี้ เลิกนะคะ พอคะ ... มันจะเป็นวัตถุโบราณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราจะหย่าขาดจากกัน ทำเลยคะ ตั้งแต่วันนี้ เริ่มเลยคะ ปฏิบัติ!!!
5. ทำต่อไปคะ (Maintenance)
เป็นช่วงประคับประคอง รักษาทำต่อไป ซึ่งข้อนี้เป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลย เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะถ้าเป็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ถ้าเป็นการเปลี่ยนที่ไม่มีการทำอย่างต่อเนื่องจะไม่เกิดผลใดๆ ดังนั้นการทำอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดใน Model นี้
ส่วนมาก ... พอเราใจอ่อน เรามักจะพูดกับตัวเองว่า เฮ้อ..หรือว่ามันก็เป็นแบบนี้แหละนะ แล้วก็กลับมาสู่วัฏจักร “ชิน และ ชา” เหมือนเดิม และเราก็จะไม่หางานใหม่ เราก็จะกลับไป อืมมมม ... จริงๆก็ทนได้นะ มันก็โอเค ก็อยู่ๆต่อก็ได้ มันก็โอนะ เพราะมันเป็นวัฏจักรแห่งความ“ชิน และ ชา” แต่ลืมตามาอีกที...อุ๊ย จะ 40 ล่ะ ทำไงดีล่ะ ย้ายงานไปไหนไม่ได้ล่ะ คงต้องอยู่ที่นี่จนเกษียณดีกว่า
น้ำหนักจะขึ้นจะลงอย่าไปสนใจ สนใจที่สุขภาพเป็นสำคัญ ถ้าจะเป็นหมู เราต้องเป็นหมูที่แข็งแรงคะ เรามีความเชื่อแบบนั้น คนผอมแต่คลอเรสเตอรอลมากมาย ไขมันพอกตับ แบบนั้นเราไม่เอา เราควรจะเป็นพวกที่แข็งแรง อดทน บึกบึน สู้ต่อไป ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ เห็นตัวอย่างมากมายในเนต ทำได้คะ เชื่อเรา!!!
เช่นกันคะ คนเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ทำได้ไม่ได้ อยู่ที่ใจ ขอให้มีใจ ขอให้ใจแข็ง ขอให้ตั้งใจ ทำได้ทุกคน เป็นกำลังใจให้ แล้วผลลัพท์มันไม่ได้ดีแค่ตัวคุณเองนะคะ แต่มันดีกับทุกคนรวมถึงคนรอบๆตัวคุณจริงๆ และที่สำคัญ เหลือเงินในกระเป๋าเพียบเลย
อันนี้ไม่ได้อยู่ใน Stage of Change ตามในทฤษฎีแต่ขอเพิ่มเอง คือ ทัศนคติ (Attitude) ในการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทัศนคติเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเรามีทัศนคติที่ดี มองหาแต่สิ่งดีๆ สิ่งดีๆจะเข้ามาหาตัว คนดีๆจะเข้ามาหาตัว ถ้าเราเริ่มมีทัศนคติแย่ๆ เราก็จะมองเห็นแต่สิ่งแย่ๆ คนแย่ๆ สิ่งแย่ๆก็จะพุ่งเข้าหาตัวเองเช่นกัน
สุดท้าย สำหรับตัวเราเอง เราเลือกที่จะ CHANGE คะ ตอนแรก มันชาก่อน เพราะว่าไม่รู้สึกอะไร จนคิดว่าปรับตัวได้ เลยนึกว่านี่คือการชิน แต่ว่า ... หลายๆอย่าง ซึ่งประจวบเหมาะกับหลายๆ Stage ในนี้ ตอบว่า มันคือ เอ๊ะหลายเอ๊ะของเรา ที่ถ้าเราอยู่เกิน 21 วันเนี่ย เราต้องชินแน่ๆ แค่เราถามตัวเองทุกวัน เราจะเลือกชินกับมันไหม แต่ถ้าเราถามตัวเองทุกวันแบบนี้ มันน่าจะไม่ชินนะ ... จนสุดท้าย ตัดสินใจ เลือกที่จะ CHANGE ดีกว่า ... การ CHANGE ไม่จำเป็นต้องทำในทันที เพียงแต่ต้องวาง Strategy ให้เหมาะสม แบบถูกที่ถูกเวลา บวกกับทัศนคติแบบบวกๆ แค่นี้ไม่ว่าจะทำอะไร ผลลัพธ์เป็นแบบไหน เชื่อมั่นในตัวเองและตั้งหลัก ตั้งสติที่ทัศนคติที่ดีนะคะ คิดดี ทำดี สิ่งดีๆจะเข้าหาตัวค่ะ
จบบทความวันนี้ คิดได้รึยังคะ ว่าจะเลือก ชิน – ชา หรือ CHANGE ดี
พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีคะ ..... พันธ์ทิพย์ เลิศบรรณพงษ์ (เมย์)
เลือกแล้วที่จะ CHANGE
Reference : Stages of Change Model, Prochaska and DiClemente , Alex Lickerman, M.D.,The Undefeated Mind: On the Science of Constructing an Indestructible Self (link is external)
Comments