4 วิธีเสพข่าวอย่างไรไม่ให้เครียด
เช้าลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่หลายๆคนทำก็คือ การเช็กสถานการณ์ทั่วๆไปผ่านทาง Social Network ทั้งทาง Line ทาง Facebook ทาง Twitter โดยข่าวสารส่วนมากที่เราได้รับนั้น มักจะยังไม่ได้กรอง เพราะเดี๋ยวนี้เน้นความไว ทันกระแสเข้าว่า ทำให้ผู้รับสื่ออย่างเราๆท่านๆต้องใช้วิจารณญาณส่วนบุคคล ในการวิเคราะห์ข่าวสาร ซึ่งข่าวสารส่วนใหญ่ที่เราได้รับมักจะเป็นไปในเชิงลบเสียด้วยสิ ทั้ง ข่าวฆ่า ข่มขื่น ทำร้ายคน/สัตว์/เด็กเล็กๆ ซึ่งเป็นข่าวสารที่สร้างความสลดหดหู่ให้แก่ผู้อ่าน ลุกลามไปจนก่อให้เกิดความเครียด เพราะรับข่าวสารมามากมาย หลากหลายช่องทาง อีกทั้งยังต้องมาวิเคราะห์อีกว่าข่าวจริงหรือหลอก หากเป็นข่าวจริงก็มานั่งเครียดอีกว่าจะป้องกันตัวเอง หรือคนที่รักจากเหตุการณ์ในข่าวอย่างไร อย่ากระนั้นเลยคุณผู้อ่านที่รัก ชีวิตประจำวันของเราก็มีเรื่องให้เครียดมากพอตัวอยู่แล้ว อย่าให้ การรับสารผ่านสื่อต่างๆต้องมาเป้นตัวเพิ่มความเครียดให้แก่เราอีกเลย ดังนั้น ในบทความนี้ ผู้เขียนจึงขอนำคุณผู้อ่านไปรู้จักกับวิธีการลดความเครียดที่เกิดจากการรับรู้ข่าวสารก็ดี หรือเกิดจากชีวิตประจำวันก็ดีเพื่อชีวิตที่ปกติสุขของเรากัน วิธีที่ 1 อย่าอินเกินเบอร์ คุณผู้อ่านที่รัก เวลาที่คุณผู้อ่านรับข่าวสารใดๆมาก็ตามนั้น ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า เรื่องนั้นไม่ได้เกิดกับเรา ไม่ได้เกิดกับคนที่เรารัก และไม่ได้ทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนไปในทิศทางที่แย่ลง โปรดอย่านำตัวเองเข้าไปรับรู้ความรู้สึกของผู้อยู่ในสถานการณ์จนเกินพอดี ไม่เช่นนั้นคุณผู้อ่านจะมีอาการฟูมฟาย หงุดหงิด โมโห จนไปถึงมีความรู้สึกเครียด ซึมเศร้า ไม่มีใจทำอะไร ซึ่งจะการเป็นการเสียงานเสียการ เสียเวลาชีวิต และเสียจริตไปโดยใช่เหตุ ดังนั้น เมื่อคุณผู้อ่านรับข่าวสารใดๆมาก็ตาม ขอให้รับข่าวสารอย่างมีสติ และเป็นการ และโปรดให้วิจารณญาณทำงานตามความสามารถ วิธีที่ 2 อะไรที่หนักก็พักบ้าง บางครั้งข่าวสารบางอย่างที่มันกระทบจิตใจของเรา ก็ส่งผลให้เราเกิดความรู้สึก “เสพย์ติด” ข่าวสารนั้น พยายามขุดคุ้ยข้อมูลให้ลึกมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการรู้ของตนเอง ให้รู้ลึกรู้จริงรู้ชัดทุกประเด็น บางท่านถึงขั้นไม่หลับไม่นอนเพื่อเกาะติดสถานการณ์ข่าวอย่างใกล้ชิดเลยก็มี แต่การเสพย์ข่าวอย่างฮาร์ดคอร์เช่นที่กล่าวมานั้น จะยิ่งทำให้คุณผู้อ่านติดอยู่ในวังวนของสถานการณ์ภายในข่าว และนำไปสู่ความเครียดอย่างไม่รู้ตัว เพราะฉะนั้น หากคุณผู้อ่านเริ่มรู้สึกว่ามีความไม่ปกติเกิดขึ้นกับท่าน เช่น ปวดศีรษะ (ปวดทั้งสองข้าง และหรือปวดข้างเดียว) ปวดไหล่ ปวดกระบอกตา ปวดกล้ามเนื้อ เบื่ออาหาร อารมณ์แปรปรวนง่าย เป็นต้น หากท่านผู้อ่านเริ่มมีสัญญาณเช่นที่กล่าวมา นั้นแสดงว่า ร่างกายของคุณผู้อ่านเริ่มสื่อสารแล้วว่า “ฉันไม่ไหวแล้ว” เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพของคุณผู้อ่านเอง ขอให้ปล่อยวาง ผ่อนคลาย และหันเหความสนใจของตนเองไปทำเรื่องอื่นที่จรรโลงใจกว่า เช่น ชมภาพยนตร์ อ่านหนังสือ ฟังเพลง และติดตามสถานการณ์อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆก็พอ วิธีที่ 3 ทิ้งโลก Social ไปอยู่กับธรรมชาติบ้าง หากคุณผู้อ่านเหนื่อยล้ากับเรื่องราวต่างๆที่ประเดประดังเข้ามาในชีวิต วันไหนที่มีจังหวะเหมาะ ลองแกล้งลืมอุปกรณ์สื่อสารต่างๆที่เคยใช้เป็นประจำไว้ที่บ้าน แล้วออกไปสัมผัสกับธรรมชาติ นอน Home stay ในชนบท หรือง่ายๆเลย คือ ออกไปทำสวนบ้าง เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย จิตใจได้อยู่กับความสงบ ร่างกายไม่ต้องรองรับแรงกดดันใดๆ การทำตามข้อนี้ คุณผู้อ่านไม่ต้องกังวลเลยว่าตัวเองจะพลาดเรื่องสำคัญ เพราะหากเกิดเรื่องที่สำคัญจริงๆจะมีคนมาบอกเราเอง วิธีที่ 4 กระจายพลังงานที่ล้นเหลือไปกับกิจกรรมที่ท้าทาย หากการรับข่าวสารทำใหคุณผู้อ่านเครียด หงุดหงิด รำคาญใจ หรือพูดง่ายๆว่าเกิดอาการหัวร้อน ขอแนะนำให้คุณผู้อ่านปลดปล่อยพลังงานนนั้นไปกับกิจกรรม Extreme ที่สนใจ หรือกิจกรรมที่ได้ใช้แรงเยอะๆ เช่นวิ่ง ว่ายน้ำ ชกมวย เต้น เพื่อให้พลังงานทางลบออกไปจากร่างกายด้วยวิธีการทางบวก และสร้างความรู้สึกทางบวกให้แก่จิตใจของคุณผู้อ่านเอง
สุดท้ายนี้ ผู้เขียนหวังว่า ทั้ง 4 วิธี ที่ผู้เขียนแนะนำข้างต้นจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการความเครียดของคุณผู้อ่าน และสามารถปรับสมดุลย์ชีวิตให้คุณผู้อ่านได้บ้าง
ในครั้งหน้าเราจะกลับมาพบกันด้วยประเด็นอะไรนั้น โปรดติดตามได้ที่ www.istrong.co/blog นะคะ
Comments