7 กับดักสกัดความสำเร็จที่เราห้ามมองข้าม!
ในการที่เราจะประสบความสำเร็จในเรื่องอะไรสักอย่างที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องมีคือ ความสามารถในการโฟกัส และไม่ยอมให้สิ่งรอบต่างๆ รอบตัวมาทำให้เราไขว้เขวไปจากเป้าหมายที่เราวางไว้
ในเชิงจิตวิทยา การสร้างภาพเป้าหมายที่เราต้องการให้ชัดเจน เป็นตัวช่วยที่ดีมาก ในการทำให้เราโฟกัสกับเป้าหมายนั้นๆ ลดความไขว้เขวที่เกิดจากสิ่งรอบตัว ภาพของเป้าหมายหรือความสำเร็จ ก็เปรียบเสมือนที่บังตาของม้าแข่ง เพื่อให้มันวิ่งไปสู่เป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่เสียสมาธิไปกับสิ่งรอบตัวนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ในชีวิตจริงของเรา มีหลากหลายสิ่งที่มาเบี่ยงเบียนความสนใจของเรา ทำให้เราไขว้เขวไปจากเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งวันนี้ แพรขอพูดถึง 7 กับดัก ที่ทำให้เราไขว้เขวจากเป้าหมาย และวิธีการที่เราจะจัดการกับมัน เพื่อทะยานสู่ความสำเร็จมาฝากกันค่ะ
1. คิดว่าเรามีพรุ่งนี้
ในทางจิตวิทยา หากเรามีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ และเป้าหมายนั้นๆ มีความยากที่จะลงมือทำให้มันสำเร็จได้ เราจะรู้สึกไม่อยากทำสิ่งนั้นๆ และมักจะผลัดวันประกันพรุ่งว่า “เดี๋ยวค่อยทำพรุ่งนี้” ซึ่งบ่อยครั้ง พรุ่งนี้ของเราไม่เคยมีจริง และเวลาที่สำคัญที่สุดที่เราจะทำความฝันของเราให้เป็นความจริงได้ ก็คือวันนี้ เดี๋ยวนี้ เพราะไม่มีใครยืนยันกับเราได้ว่า เราจะมีพรุ่งนี้เสมอไป
จากหนังสือขายดีระดับโลก ชื่อว่า “กินกบตัวนั้นซะ” ได้แนะนำวิธีการจัดการกับ โรคผัดวันประกันพรุ่งไว้ได้ดี นั่นก็คือ ในแต่ละวันให้ทำสิ่งที่เรารู้สึกว่ายากที่สุดก่อน เพราะเราจะมีพลังงานมากที่สุดเมื่อเราเริ่มต้นวัน และการจัดการกับสิ่งที่ยากที่สุดไปแล้ว จะทำให้วันของเราง่ายขึ้น
นอกจากนี้ เราควรที่จะทำสิ่งที่จะทำให้ความฝันของเราเป็นจริงทุกวัน แม้จะเป็นแค่กิจกรรมเล็กๆ ก็ตาม แบ่งความฝันอันยิ่งใหญ่ของเรา เป็นความฝันเล็กๆ ให้เราค่อยๆ ลงมือทำมันอย่างต่อเนื่องทุกวัน วางแผนสิ่งที่จะทำ และเขียนลงในแผนงาน และตารางเวลาของเรา เมื่อเราทำความฝันเล็กๆ สำเร็จ ให้รางวัลกับตัวเองบ้าง ก่อนที่จะเขียน ความฝันเล็กๆ เพื่อก้าวไปยังความฝันอันยิ่งใหญ่ต่อไป ทำอย่างต่อเนื่อง อย่าหยุด หากทำได้เช่นนี้ เชื่อเถอะว่า คุณจะต้องประสบความสำเร็จในสิ่งที่ตั้งใจวันอย่างแน่นอน
2. กับดักของคำชม
คำชมเป็นสิ่งที่ดี เป็นกำลังใจให้เราก้าวต่อไปข้างหน้า และรักษาคุณภาพที่ดีของเราไว้ แต่เมื่อใดก็ตามที่เรารู้สึกหลงตัวเอง ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ เมื่อเราได้รับคำชมอย่างต่อเนื่อง จนเราคิดว่าเราดีแล้ว เก่งแล้ว และหยุดที่จะพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าต่อไป
จงจำไว้ว่า การที่เราจะประสบความสำเร็จได้ เกิดจากความมุ่งมั่นที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ให้สำเร็จ เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ เราไม่ได้ทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ได้รับคำชื่นชม จงพิจารณาเหตุผลของความต้องการที่จะประสบความสำเร็จกับเรื่องนั้นๆ ให้ดี และใช้คำชื่นชมเป็นกำลังใจเล็กๆ ระหว่างการเดินทางไปยังเป้าหมายของเรา
3. โรคชอบเปรียบเทียบ
ในทางจิตวิทยา เป็นธรรมชาติของมนุษย์ที่เราจะชอบเปรียบเทียบ แน่นอน การเปรียบเทียบมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ตัวอย่างเช่น ข้อดี หากเราเปรียบเทียบตัวเองกับคนที่เก่งกว่า มีชีวิตที่ดีกว่า และใช้เขาเป็นแรงบันดาลใจในการที่วันหนึ่งเราจะเป็นให้ได้อย่างเขา เป็นเรื่องที่ดี แต่ข้อเสียก็คือ หากเราเอาการเปรียบเทียบนั้นมาบั่นทอนตัวเอง ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเราดีไม่พอ และไม่มีทางที่จะเป็นได้อย่างคนอื่น เพราะเขามี x, y และ z แล้วหละก็ การเปรียบเทียบนี้ก็เป็น ตัวการที่สำคัญอีกข้อหนึ่งที่ทำให้เราเบี่ยงเบนจากเป้าหมายที่เราต้องการได้
จงจำไว้ว่า คนทุกคนเป็นปัจเจกบุคคล มีจุดอ่อนและจุดแข็งที่แตกต่างกัน มีเรื่องราวและจังหวะชีวิตเป็นของตัวเอง ดังนั้น โฟกัสในการพัฒนาจุดแข็ง นำความสามารถที่พิเศษของเรามาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตัวเอง เป็นตัวของเราในวันนี้ให้ดีกว่าตัวของเราเองเมื่อวานนี้ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่นานเราก็จะประสบความสำเร็จตามที่เราตั้งใจไว้
>>> แนะนำบทความ "3 วิธีรักษาโรคคิดว่าตัวเองไม่เก่ง"
4. คำวิพากวิจารณ์ของคนอื่น
บ่อยครั้งที่เราจะได้ยินคนอื่นพูดว่า “เราไม่มีทางทำความฝันของเราให้เป็นจริงได้หรอก” ซึ่งคำพูดนี้อาจจะมาจากคนในครอบครัว หรือคนที่เรารักก็ได้
จงจำไว้ว่า ความคิดเห็นของคนอื่นเป็นเพียงมุมมองของเขาที่มีต่อชีวิต เพราะเขาไม่สามารถทำให้มันเป็นจริงได้ แต่ความคิดเห็นนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่เราต้องเชื่อเพื่อหยุดในการทำความฝันที่เราต้องการให้เป็นจริง ดังนั้น จงตั้งใจลงมือทำความฝันของเราต่อไป
“Shoot for the moon. Even if you miss, you’ll land among the stars” - W Clement Stone
5. ความเสียใจในอดีต
หลายต่อหลายครั้งที่เรานั่งเสียใจกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำ ใช้ชีวิตบนสมมติฐานว่า ถ้าเราทำอะไรบางอย่างในอดีต ปัจจุบันของเราจะเป็นเช่นไร หากเรามัวคิดวนเวียนอยู่อย่างนี้ และใช้ชีวิตบนสมมติฐานเดิมๆ ต่อไป สิ่งที่เกิดแน่ๆ ก็คือ เราจะพายเรือวนอยู่ในอ่างไม่ได้ไปถึงไหน
การโฟกัสกับสิ่งที่เราไม่ได้ทำในอดีต ทำให้เราเสียโอกาสที่จะมองเห็นสิ่งดีๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ดังนั้น เลิกใช้ชีวิตกับสมมติฐานว่าหากเราทำอะไรบางอย่างในอดีต แล้วปัจจุบันของเราจะเป็นเช่นไร แต่ลงมือทำมันเดี๋ยวนี้แทน
6. บาดแผลของความล้มเหลว
ความล้มเหลวทำให้เรากลัว เรากลัวว่าเราจะต้องล้มเหลวแบบเดิมอีก จนทำให้เราไม่กล้าที่จะทำอะไรบางอย่างที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจไว้ได้
คนที่ประสบความสำเร็จระดับโลก ล้วนเคยผ่านความล้มเหลวมาแล้วทั้งนั้น สิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่ประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้ เป็นเพราะเขาไม่ยอมให้ความล้มเหลว ซึ่งเป็นเพียงสิ่งชั่วคราว มาหยุดเขาไว้ แต่ใช้มันเป็นโอกาสในการเรียนรู้เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป และทำความฝันของพวกเขาให้เป็นจริง
7. ความสมบูรณ์แบบ
ตัวของเราไม่สมบูรณ์แบบ และไม่มีใครบนโลกใบนี้ที่สมบูรณ์แบบ ความสมบูรณ์แบบหยุดเราในการลงมือทำ เพราะบ่อยครั้งคนที่ต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ จะเสียเวลาไปอย่างมากมายกับการวางแผน โดยไม่ลงมือทำอะไรสักที ซึ่งคนเหล่านี้ มักจะกลัวคำวิพากวิจารณ์จากคนอื่น ความสมบูรณ์แบบ คือ การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่ง ซ้ำๆ อย่างต่อเนื่องและพัฒนาให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เราจะไม่มีวันที่จะสมบูรณ์แบบได้เลย ถ้าเราไม่เร่ิมต้นก้าวแรก นั่นคือ การลงมือทำนั่นเอง
นี่แหละคะ กับดักทั้ง 7 ข้อที่จะทำให้เราไขว้เขวไปจากเป้าหมายที่เราวางไว้ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ก็ระมัดระวังอย่าติดกับดักข้อใดข้อหนึ่งจนทำให้เราไม่สามารถ ประสบความสำเร็จอย่างที่เราตั้งใจไว้นะคะ
สามารถพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมได้จากบทความ " 7 คุณสมบัติความฉลาดทางอารมณ์ สร้างคุณให้ประสบความสำเร็จ" นะคะ
____________________________________________________
iStrong.co ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว
บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยา นักจิตบำบัด นักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบรับรอง
สามารถเลือกคุยทางโทรศัพท์หรือการพูดคุยแบบส่วนตัว (Private Counseling)
และคอร์สออนไลน์ | Classroom Workshop
รวมถึงบทความจิตวิทยาอีกมากมาย
Contact : https://www.istrong.co/service
Kommentare