7 กลยุทธ์เชิงจิตวิทยาพัฒนาความรักให้แน่นแฟ้นยืนยาว
“When you stop expecting people to be perfect, you can like them for who they are.” ― Donald Miller
“เมื่อเราหยุดที่จะคาดหวังให้คนอื่นสมบูรณ์แบบ เราก็สามารถชอบเขาในแบบที่เขาเป็นได้”
การที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ ความรักอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอ นอกจากนี้คนสองคนยังต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่อที่จะอยู่ร่วมกัน และนำพาชีวิตคู่ของพวกเขาให้ดำเนินไปสู่เป้าหมายที่หวังไว้ให้ได้อีกด้วย
ความเข้าใจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในชีวิตคู่ มนุษย์ทุกคนมีความคาดหวัง และทุกมนุษย์ทุกคนมีมุมมองและความคิดเป็นของตนเองด้วยกันทั้งสิ้น แต่การที่เรารักใครสักคน และเมื่อตัดสินใจที่จะร่วมใช้ชีวิตคู่กับเขาแล้ว เราอาจจะต้องลดความเป็นตัวของตัวเอง และพยายามทำความเข้าใจคนอีกคนหนึ่ง รับรู้ถึงอารมณ์ ความรู้สึกของคนๆ นั้น เนื่องจากอันที่จริงแล้ว การใช้ชีวิตคู่ก็คือ การที่คนสองคนมีความสุขร่วมกัน และสร้างครอบครัวในแบบของพวกเขาด้วยกัน ไม่ใช่ในแบบของคนใดคนหนึ่งเพียงอย่างเดียว
วันนี้แพรมี กลยุทธ์เชิงจิตวิทยา ที่จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์ของคุณกับคนที่คุณรัก พัฒนาให้กระชับและแน่นแฟ้นขึ้น ซึ่งมีด้วยกันทั้งหมด 7 ข้อมาฝากกัน ดังต่อไปนี้ค่ะ
1.ผลกระทบต่อความคาดหวัง
เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ความคาดหวังเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติกับคนที่ใช้ชีวิตร่วมกัน Robert Rosenthal นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาและค้นพบว่า การสร้างความคาดหวังในด้านบวกต่อคู่รักของเรา จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมและผลลัพธ์ในด้านบวกด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น การพูดให้กำลังใจคู่รักว่า “คุณสามารถทำได้”, “คุณเป็นคนดี” คำพูดเหล่านี้นอกจากจะสร้างความรู้สึกเชิงบวกแล้ว ยังช่วยทำให้คู่รักของคุณทำสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย
2.การเป็นผู้ฟังที่ดี
เมื่อคู่รักของเรากำลังเผชิญกับปัญหาและความเครียด แทนที่เราจะพูดว่า “ก็บอกแล้วไง” หรือติเตียนในสิ่งที่เขาได้ทำผิดพลาดไป รวมถึงพยายามให้คำแนะนำต่างๆ อาจทำให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่แย่ลง การเป็นผู้ฟังที่ดี และพยายามทำความเข้าใจคู่รักของคุณ ใช้คำพูดในการสนับสนุนและปลอบใจ และหากเขาต้องการความช่วยเหลือ จากปัญหาที่เกิดขึ้น เราจึงค่อยช่วยยื่นมือเข้าไปช่วยในการแก้ปัญหานั้นๆ
3.ทำในสิ่งที่เราต้องการได้รับ
หากเราต้องการได้สิ่งใดจากคู่รัก ให้เราทำสิ่งนั้นแก่เขาด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น หากเราต้องการได้รับคำชมและความสนใจ เราก็ควรจะทำแบบเดียวกันกับเขาเช่นกัน โดยโฟกัสที่จุดดีและข้อดีของเขา ในการกล่าวชม เป็นต้น
4.ชี้นำให้เห็นถึงแง่บวก
เมื่อคู่รักของคุณกำลังประสบปัญหา ไม่ว่าจะเป็นกำลังป่วย หรือประสบปัญหาความเครียดจากเรื่องงาน และมองเห็นสิ่งต่างๆ ในแง่ลบไปเสียหมด หน้าที่ของเราก็คือ พยายามชักนำให้เขามองเห็นแง่บวก และสิ่งดีๆ ที่มีอยู่รอบๆ ตัว
5.แสดงความเห็นอกเห็นใจ
ความเห็นอกเห็นใจ จะทำให้คู่รักของเรา บอกเล่าและระบายความรู้สึกของเขาให้กับเรามากยิ่งขึ้น บอกถึงปัญหาที่เขากำลังเผชิญ ซึ่งการฟังด้วยความเห็นอกเห็นใจ เราควรเป็นผู้ฟังที่ดี โฟกัสที่การแสดงความเข้าอกเข้าใจคู่รักของเรา แทนที่จะพยายามเสนอวิธีการแก้ปัญหาในเวลาที่เขายังไม่ต้องการ
6.ยอมรับคู่รักของเราในสิ่งที่เขาเป็นโดยไม่มีเงื่อนไข
Carl Rogers นักจิตวิทยาได้ทำการศึกษาและค้นพบว่า การที่เราสามารถยอมรับในตัวตนของคนรักของเราโดยไม่มีเงื่อนไข จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของคุณได้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การยอมรับใครสักคนและรักใครสักคนโดยไม่มีเงื่อนไข ต้องใช้ความอดทน และอาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ
7.การให้อภัย
การใช้ชีวิตของคนสองคน อาจจะมีเรื่องที่ต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่หากเรายังคงต้องการที่จะดำเนินชีวิตคู่ต่อไป การให้อภัยเป็นเรื่องที่จำเป็นที่เราจะต้องเรียนรู้และปฏิบัติ ให้อภัยในสิ่งที่คนรักของเราได้ทำผิดพลาด หรือทำให้เราเสียใจ พูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจและหาแนวทางแก้ไข เพื่อให้ชีวิตคู่สามารถเดินหน้าไปได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง
การที่เราจะเจอใครสักคนที่เรารู้สึกว่าเรารักเขา ตกลงที่จะใช้ชีวิตร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเรามีลูกด้วยกันแล้วหละก็ การประคับประคองชีวิตคู่ให้ดำเนินต่อไปให้ได้อย่างราบรื่นเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก แพรหวังว่า กลยุทธ์ทั้ง 7 ข้อที่นำมาฝากนี้ จะเป็นประโยชน์ให้กับคู่รักทุกคู่นะคะ
เพราะทุกก้าวของชีวิตคือจิตวิทยา
iStrong บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยาที่มีใบรับรอง สามารถเลือกคุยทางโทรศัพท์หรือคุยแบบพบหน้า
Contact : https://www.istrong.co/service
留言