top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

6 วิธีกลับมารักตัวเองหลังจากอกหัก โยนทิ้งความรู้สึกไร้ค่าไม่ดีพอเมื่อคนรักเดินจากไป


เคยสังเกตไหมคะว่าทำไมบางคนพอถูกแฟนบอกเลิกนอกใจ อกหักช้ำรัก ก็อาจจะร้องไห้เสียใจอยู่สักพัก หลังจากนั้นก็เปลี่ยนจากปาดน้ำตา มาปาดมาสคาร่าได้อย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนต่อให้เวลาผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่สามารถจะก้าวผ่านความรู้สึกใจสลายไปได้เลย แน่นอนว่าคนเราแต่ละคนเกิดมาย่อมมีความแตกต่างกัน หนึ่งในนั้นก็คือระดับของความรู้สึกภาคภูมิใจในคุณค่าของตนเอง (Self-esteem)


ซึ่งนอกจากแต่ละคนจะมีไม่เท่ากันแล้ว แหล่งที่มาของ Self-esteem ของแต่ละคนก็ยังมีที่มาแตกต่างกันได้อีกด้วย ส่งผลให้เวลาที่แต่ละคนต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้เสียความมั่นใจอย่างการถูกแฟนบอกเลิกหรือนอกใจไปคบกับคนอื่น แต่ละคนก็จะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ดังกล่าวต่างกัน โดยคนที่มี Self-esteem ในระดับที่น้อยแถมยังเอาคุณค่าของตัวเองไปผูกติดกับการถูกเลือก ก็มีแนวโน้มว่าจะมูฟออนจากความเจ็บช้ำได้ยากลำบากกว่าคนที่เชื่อว่าคุณค่าของตัวเองไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่ใครสักคนเดินจากไปก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเองไร้ค่าสักหน่อย

ทำอย่างไรถึงจะสามารถดึง Self-esteem กลับมาหลังจากอกหักช้ำรัก สำหรับคนที่เกิดความรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าไม่ดีพอเมื่อคนรักเดินจากไป

1. โอบกอดทุกความรู้สึกของคุณ

มันไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติอะไรเลยหากคุณจะรู้สึกผิดหวัง เสียใจ โกรธ โมโห สับสน หลังจากที่เลิกรากับคนรัก เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางจิตใจเมื่อเผชิญกับความเศร้าโศก (Stages of grief) โดยเฉพาะในช่วงที่เหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน ในช่วงหนึ่งคุณอาจจะมีความรู้สึกโทษตัวเองเกิดขึ้นไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งหากความรู้สึกต่าง ๆ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้น ก็ขอให้คุณอนุญาตให้ตัวเองได้มีโอกาสปลดปล่อยมัน โดยที่ไม่รังเกียจตัวเองที่คุณมีความรู้สึกเหล่านี้เกิดขึ้น และบอกตัวเองว่า “มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนที่เสียใจที่จะร้องไห้หรือเซไปบ้าง”

2. ถือโอกาสใช้ช่วงเวลาไม่มีแฟนไปกับการพัฒนาตัวเอง

ตอนที่คุณคบกับแฟนหรือมีคู่สมรส คุณอาจจะพยายามทุ่มเทตัวเองไปกับการดูแลคนรัก เช่น ทำความสะอาดข้าวของส่วนตัวของคนรัก จัดเตรียมอาหารให้ หรือพยายามใส่ใจให้เวลาเขาจนคุณไม่ได้มีเวลาให้กับตัวเองอย่างแท้จริง ในช่วงที่คุณยังไม่มีใครนี้ ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่คุณจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น เช่น ออกกำลังกายเพื่อให้ตัวเองมีรูปร่างที่สมส่วนแข็งแรง ทำสมาธิ เล่นโยคะ ทำงานอดิเรก หรือเข้าร่วมกิจกรรมที่คุณสนใจ โดยไม่ต้องมาคอยนั่งพะวงว่าการใช้เวลาอยู่กับตัวเองของคุณจะทำให้คนรักน้อยใจหรือเปล่า

3. ท้าทายเสียงในใจที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเอง

บ่อยครั้งที่คนเรามักจะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองเกิดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่อกหัก คนเรามักจะเริ่มพูดกับตัวเองว่า “ฉันคงจะไม่ดีพอที่จะทำให้เขาเลือกฉัน” หรือมีคำถามกับตัวเองว่า “ฉันด้อยกว่าอีกคนตรงไหน?” หากคุณปล่อยให้เสียงวิพากษ์วิจารณ์นั้นดังอยู่เรื่อย ๆ โดยที่คุณไม่เคยตั้งคำถามเพื่อหาข้อโต้แย้งกับตัวเอง มันก็จะส่งผลให้ระดับ Self-esteem ของคุณลดลงไปเรื่อย ๆ เช่นกัน หากคุณอยากเรียกคืน Self-esteem กลับมา คุณต้องท้าทายเสียงในใจของคุณ เช่น “คิดแบบนี้แล้วมีประโยชน์อะไรกับตัวเอง” “ความคิดโทษตัวเองมันทำให้รู้สึกยังไงบ้าง” “มีหลักฐานอะไรบ้างในการพิสูจน์ว่าความคิดของตัวเองมันจริง” “นอกจากคิดแบบนี้แล้ว สามารถคิดอย่างอื่นแทนได้ไหม”

4. อย่าปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรม

หลังจากอกหัก คุณอาจจะปล่อยความเสียใจออกมาได้ แต่อย่าปล่อยให้ร่างกายทรุดโทรมโดยเด็ดขาด พยายามดูแลตัวเอง เช่น หลีกเลี่ยงการดื่มเหล้าจนเมามายหรือใช้สารเสพติด เลือกกินอาหารที่ดีต่อร่างกายแม้จะกินได้น้อยแต่ก็ขอให้เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ หาวิธีจัดการกับอาการนอนไม่หลับหากมันเกิดขึ้น ออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายหลั่งสารความสุขออกมา หากคุณดูแลร่างกายไม่ให้ทรุดโทรม คุณก็จะมีแนวโน้มกลับมารู้สึกดีกับตัวเองได้ง่ายขึ้น ตรงข้าม หากคุณปล่อยให้ตัวเองดูโทรมดูแย่ คุณก็จะไม่หยุดซ้ำเติมสักทีว่า “เพราะฉันดูโทรมแบบนี้ ฉันถึงได้ถูกทิ้งไป”


5. ฝึกมองหาสิ่งที่คุณมีและสิ่งที่ดีในแต่ละวัน

บางครั้งคนเราก็มูฟออนจากความทุกข์ไม่ได้เพราะมัวแต่ไปโฟกัสว่าตัวเองขาดอะไร และหลงลืมไปว่าตัวเองมีอะไร รวมไปถึงการมองเห็นแต่สิ่งที่แย่ ๆ ในชีวิตและไม่นับแต้มให้กับสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น คุณอาจจะโฟกัสว่าคุณเป็นคนขาดรัก จนหลงลืมไปว่าคุณมีเพื่อนที่ดีมากมาย มีครอบครัว มีสัตว์เลี้ยง มีหน้าที่การงาน มีความสามารถ ซึ่งนับรวม ๆ กันแล้วสิ่งที่คุณมีมันเยอะกว่าสิ่งที่คุณขาดซะอีก


6. เรียนรู้ที่จะกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม

การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม (Assertive) ก็คือการแสดงออกที่ไม่ก้าวร้าวแต่ก็ไม่ยอมตามมากจนเกินไป ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนมาแทรกคิวคุณ ถ้าคุณก้าวร้าวก็จะโพล่งด่าออกไปด้วยเสียงดัง ถ้าคุณยอมตามมากจนเกินไปคุณก็จะปล่อยให้เขาแทรกคิวโดยไม่พูดอะไรเลย ถ้าคุณกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมคุณอาจจะบอกกับเขาอย่างสุภาพว่า “ขอโทษนะคะ ช่วยไปต่อแถวข้างหลังด้วยค่ะ” การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธ ไม่ยอมตาม ‘say yes’ ไปหมดทุกสิ่ง และไม่ก้าวร้าวรุนแรง จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าตัวเองมีค่าและมีพลังอยู่ภายใน ซึ่งจะช่วยให้คุณมีระดับของ Self-esteem ดีขึ้น


อย่างไรก็ตาม Self-esteem ก็มีลักษณะเช่นเดียวกับคุณลักษณะทางจิตวิทยาอื่น ๆ คือมันมีที่มาว่าอะไรที่ส่งผลให้บุคคลมีระดับของ Self-esteem เช่นนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ถ้าอกหักช้ำรักทีไรก็แหลกสลายและยากมากที่จะฟื้นฟูจิตใจให้กลับมา มีความรู้สึกไร้ค่าเกิดขึ้นจนอยากจะหายไปหรือจบชีวิตลง อยากชวนให้คุณลองเปิดใจให้กับผู้เชี่ยวชาญอย่างจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยให้คุณได้ค้นพบสาเหตุของความทุกข์จะสะสมเรื้อรังของคุณ เพื่อให้คุณสามารถกลับมามี Self-esteem ในระดับที่เหมาะสม และเลิกจมอยู่กับรักที่เพิ่งผ่านพ้นไป


สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ


iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่


 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS


สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8


โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

ประวัติผู้เขียน

นางสาวนิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) การศึกษา: ปริญญาโทสาขาจิตวิทยาการปรึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ปริญญาตรีสาขาจิตวิทยา (คลินิก) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

การทำงาน: พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน นักจิตวิทยาการปรึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา

และเป็นนักเขียนของ istrong

 

อ้างอิง

[1] How To Build Your Sense Of Self-Worth. Retrieved from. https://theawarenesscentre.com/breakup/


บทความที่เกี่ยวข้อง

 


Comments


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page