2 min read

ระวัง! 6 คำพูดที่อาจทำให้เราหลงผิดไปเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว

ในช่วงเวลานี้คงไม่มีอะไรทำให้สังคมออนไลน์ลุกเป็นไฟได้เท่ากับข่าวมือที่สาม ที่สี่ ที่ห้า ของคู่รักดาราคู่หนึ่ง ที่ทำให้รักล่มแม้จะคบกันมาถึง 3 ปี ทำให้หลายคนอินมาก นั่นก็เพราะปัญหาการนอกใจเป็นปัญหาสากลในระดับโลก ที่ขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติอยู่เนือง ๆ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าคนนอกใจผิด 100% แต่ถ้ามองในมุมของคนที่เข้ามาเป็นมือที่สามอย่างเป็นกลาง เขาอาจจะเจอคำพูดบางอย่างที่ทำให้เกิดความเชื่อใจอีกฝ่ายว่าเขาจบกับคนเก่าแล้ว และกำลังจะมาคบกับเรา เลยทำให้หลวมตัวหลงผิดไปเป็นมือที่สาม ซึ่งกรณีเช่นนี้มีให้เห็นบ่อยมากเช่นกัน จากงานศึกษาทางจิตวิทยาเกี่ยวกับการเป็นภรรยาน้อย พบว่า คนที่เข้ามาเป็นมือที่สามเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะมาแย่งคนรักใคร โดนเขาหลอกมาอีกที พอรู้ตัวก็รักเขาไปแล้ว แล้วคนที่เป็นมือที่สามก็จะโดนทัวร์ลง โดยที่คนที่ดึงเราเข้ามาในปัญหาก็จะลอยตัว เพราะฉะนั้นการเป็นมือที่สามจึงเป็นความไม่ยุติธรรมของชีวิตเลยค่ะ

ดังนั้น ด้วยความความห่วงใย จึงขอนำเสนองานศึกษาจิตวิทยา ว่า คำพูดของคนที่เข้ามาสานสัมพันธ์กับเราแบบใดกันบ้างที่อาจทำให้เราหลงผิดไปเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว

1. กำลังจะเลิกกันแล้ว

คำล่อลวงยอดฮิตของคนที่คิดจะให้เราเป็นเบอร์ 2 เป็นกิ๊ก เป็นบ้านเล็ก ก็คือ “กำลังจะเลิกกันแล้ว” โดยคนที่มีเจ้าของแล้วมักจะใช้คำนี้กับเป้าหมายที่ถูกใจ และรู้จักกับคนที่เป็นตัวจริง ก็คือรู้ว่าคนที่มาจีบมีแฟนอยู่แล้ว เพื่อให้สบายใจและมีความหวังว่าคน ๆ นั้นจะเลิกกับตัวจริง มาคบเราแทน คุณค่ะ คนรักไม่ใช่กระเป๋า ที่หาคนใหม่ก่อนแล้วค่อยทิ้งคนเก่า ถ้าจะมองหาคนใหม่มาแทนคนเก่าแล้วละก็ควรจะให้เกียรติกันโดยการจบกันไปก่อน แล้วจะมูฟออนไวเปิดตัวคนใหม่เลยเราก็ไม่ว่ากันนะ แต่ถ้ามาจีบเราแล้วพูดว่า “กำลังจะเลิกกันแล้ว” ร้อยทั้งร้อยคือคบซ้อนแน่นอนค่ะ แต่ถ้าใจเราเทไปให้เขาแล้ว ขอให้พึงให้เกียรติตัวเองโดยการให้เขาไปจบกับคนเก่าให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาสานต่อก็ยังไม่สายค่ะ

2. เลิกกันแล้ว แต่อยู่ในระยะให้อีกฝ่ายทำใจ

คำหลอกของคนนอกใจ คำต่อมา ก็คือ “เลิกกันแล้ว แต่ที่เห็นยังอยู่ด้วยกัน เพราะเป็นระยะให้อีกฝ่ายทำใจ” คำโกหกนี้ช่วยให้คนพูดดูอบอุ่น ห่วงใย ใส่ใจคนรักเก่าเหลือเกิน แต่คุณค่ะ ถ้าเขาห่วงใย ใส่ใจความรู้สึกแฟนที่เค้าอ้างว่าเลิกกันไปแล้วจริง ๆ เขาก็ไม่ควรมาจีบเรา มาสานสัมพันธ์กับเรา มาพูดให้เราหลงว่าเราจะได้เป็น No.1 คนต่อไป ถ้าคนเราเลิกกัน จบความสัมพันธ์กันจะไม่สามารถทนอยู่กันต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะจะมีแต่ความอึดอัดใจ หงุดหงิด แล้วก็มีแต่อารมณ์ทางลบ ไม่น่าจะมีอารมณ์มาหว่านเสน่ห์ใส่เราได้

3. ไม่ได้รักคนที่คบอยู่ด้วยเลย รักเธอมากกว่า

คำอ้างที่ว่า “ฉันไม่ได้รักคนที่คบออกหน้าออกตา เท่ากับที่รักเธอเลย” มักจะถูกนำมาใช้ในเวลาที่เราจับได้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าเราก็หลวมตัวรับตำแหน่งแฟนสำรอง แฟนเบอร์ 2 เป็นที่เรียบร้อยไปแล้วค่ะ ซึ่งจุดประสงค์ของข้ออ้างนี้ ก็คือ อย่าเลิกกันเลย ที่คบกับเธอเพราะรักเธอนะ อีกคนไม่ได้รักเลย ถึงจะไม่ได้คบเธอออกหน้าออกตา แต่เธอก็ได้ใจฉันไปหมดเลยนะ คุณค่ะ คนที่พูดแบบนี้ คนเดียวที่เขารักก็คือเขาเองค่ะคุณ ถ้าเขารักเรา เขาต้องให้เกียรติเรา ห่วงใยความรู้สึกเรา ไม่ใช่มาทำร้ายความรู้สึกเรา แล้วหลอกให้เราอยู่กับเขาด้วยคำว่า “รัก” และแน่นอนค่ะว่าเมื่อตัวจริงของเขาจับได้ว่าเขาคบเราอยู่ด้วย เขาก็จะโทรมาบอกเลิกเราโดยมีตัวจริงของเขาฟังอยู่ด้วย แต่เมื่อตัวจริงเผลอก็กลับมาหาเราอีก เพราะฉะนั้นแล้วโปรดใช้วิจารณญาณในการสานต่อความสัมพันธ์นะคะ

4. ที่เห็นแค่เพื่อนสนิท/พี่/น้อง/เพื่อนร่วมงาน

เมื่อเราจับได้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว หรือเริ่มระแคะระคายว่าเราอยู่ในสถานะคบซ้อน เขาก็จะใช้คำอ้างว่า “คนที่เราเห็นนะเพื่อนเขา” ไม่ก็เพื่อนสนิท พี่ น้อง เพื่อนร่วมงาน ดูเป็นคนญาติเยอะขึ้นมาทันที พอเราจะขอทำความรู้จักก็จะบ่ายเบี่ยง บอกอย่าไปยุ่งกับคนนั้นเลย ไม่สำคัญอะไรหรอก แต่เราก็จะเห็นว่าเขาไปไหนมาไหนด้วยกันประจำ และถ้าไปส่อง Facebook ของคนที่เราสงสัยด้วยแล้วอาจจะโป๊ะ และเซอร์ไพส์ได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ว่าเขาไม่ได้มีกิ๊กนะ แต่เรานี่ละที่เป็นกิ๊กของเขา เป็นมือที่สามโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าเจอข้ออ้างว่า “ที่เห็นแค่เพื่อนสนิท/พี่/น้อง/เพื่อนร่วมงาน” ขอให้เตรียมใจไว้เลยค่ะว่ามันไม่ปกติแล้วแน่นอน

5. คนนั้นแค่แฟนเก่า

เมื่อเราไปเจอหลักฐานว่าเขามีรูปใกล้ชิดสนิทสนมในระดับคนรักกับคนอื่น แล้วเมื่อเราไปถามเขาตรง ๆ เขาตอบกลับมาว่า “คนนั้นแค่แฟนเก่า” จบกันไปนานแล้ว ไม่ต้องใส่ใจ แค่จบกันด้วยดี เป้นเพื่อนกัน อะไรประมาณนี้ ขอให้ฉุกใจคิดนะคะว่าถ้าเขามาคบเรา และเลิกกับแฟนเก่าแบบตัดใจ เราจะไม่ได้เห็นรูปคู่หวาน ๆ หรือข้อความบอกรักแท็กหากันอย่างแน่นอนค่ะ แม้จะจบกันด้วยดีก็ตาม เพราะถ้าเขารักเรา และใส่ใจเรา เขาจะชัดเจนกับเรา ไม่ให้อดีตของเขามาทำร้ายเรา แต่ถ้าสิ่งที่เขาบอกว่า “เป็นอดีต” ของเขายังคงวนเวียนและตามหลอกหลอนเรา ขอให้พึงระวังไว้ว่า คนนั้นน่าจะยัง “เป็นปัจจุบัน” อยู่นะคะ

6. ยังไงฉันก็เลือกเธอ

ถ้าเราจับได้ว่าเขามีคนอื่น หรือหนักกว่าก็คือ เราเป็นที่สอง มือที่สาม ในชีวิตรักของเขา แล้วเราตัดสินใจจะก้าวออกมา โดยส่วนใหญ่เขามักจะรั้งเราด้วยคำว่า “ยังไงฉันก็เลือกเธอ” เพื่อ (หลอก) ให้เรารู้สึกว่าเรามีค่ามากสำหรับเขา เพื่อให้เราตัดสินใจคบกับเขาต่อ แล้วยังไงนะหรือคะ เราก็จะได้รู้ ได้เห็น ว่าเขาก็ยังมีเวลาไปอยู่กับอีกคน ยังมีช่วงดี ๆ อยู่กับอีกคน หนักกว่านั้นก็คือ เขาก็บอกอีกคนเหมือนกัน ว่า “ยังไงฉันก็เลือกเธอ” ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ยอมตัดเสียแต่ตอนที่เรารู้ตัว ดีกว่ายื้อให้แผลใจมันอักเสบ เป็นหนอง แล้วจะกลายเป็นความแค้น ความเศร้า ซึ่งจะทำให้เรารู้สึกว่าเราไม่มีค่า แล้วก็กลายเป็นโรคซึมเศร้า และต้องขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิทยาในที่สุด

“ความรัก” เป็นสิ่งสวยงามเสมอค่ะ แต่ “คนรัก” สวยงามเป็นบางเวลา และปลอมกันง่ายเหลือเกิน ด้วยความห่วงใย ไม่อยากให้ใครถูกทำร้ายโดยความรักจากคนที่ไม่ได้รักเราจริง จึงขอฝากข้อแนะนำของนักจิตวิทยาข้างต้นไว้เตือนใจคุณ ๆ ก่อนหลงเชื่อคำหวานของใครด้วยนะคะ

สำหรับใครที่กำลังเครียด กังวล คิดมาก ทั้งเรื่องของปัญหา Burn Out จากการทำงาน ปัญหาความสัมพันธ์ต่างๆ ในครอบครัว คนรัก ไปจนถึงภาวะต่างๆ เช่น ซึมเศร้า ทุกปํญหาสำคัญและเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเราเสมอ

iSTRONG ยินดีให้บริการ ปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยผู้เชี่ยวชาญ ทั้งจากจิตแพทย์และนักจิตวิทยา ดูรายละเอียดได้ที่นี่

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร

บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

• บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa

• คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS

สำหรับองค์กร

• EAP โปรแกรมสำหรับองค์กร : http://bit.ly/3RLI8Z8

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

บทความแนะนำ :

[1] 8 ข้อคิดจิตวิทยาในการใช้ชีวิตคู่ จากภาพยนตร์ Fast & Feel Love

[2] 6 เคล็ดลับเริ่มต้นชีวิตคู่ด้วยความสุขที่ยั่งยืน

ประวัติผู้เขียน : จันทมา ช่างสลัก คุณแม่ของลูก 1 คน แมว 1 ตัว ที่พยายามใช้ความรู้ทางจิตวิทยาที่ร่ำเรียนมาและประสบการณ์การทำงานด้านจิตวิทยาพัฒนาการเด็ก มาสร้างความสุขในการใช้ชีวิต ดูแลครอบครัว และการทำงาน รวมถึงมีความสุขกับการได้เห็นว่าบทความจิตวิทยาที่เขียนไปมีประโยชน์กับคนอ่าน