4 วิธีรับมือกับคนที่อคติกับคุณ

พฤติกรรมการแสดงออกของคนเรานั้น เป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากประสบการณ์เก่าที่เคยได้รับมาในอดีต ได้แก่ เรื่องฝังใจ ประสบการณ์ การให้ความสำคัญ ซึ่งเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติจากการทำงานของสมองและปฏิกิริยาทางด้านร่างกายที่สะสมข้อมูลมาเป็นเวลานาน ซึ่งสมองของเรานั้นมักจะเอาข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาใช้ในการตัดสิน ตีความ สรุปเหมารวมข้อมูล เช่น เมื่อคุณเห็นเบคอนปฏิกิริยาของคุณที่มีต่อเบคอนจะเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ ถ้าคุณชอบเบคอนคุณจะมีปฏิกิริยาเชิงบวกคือ ตื่นเต้น สนใจที่จะอยากกิน แต่ถ้าคุณไม่ได้ชอบเบคอนเอาซะเลย ทันทีที่คุณเห็นเบคอนคุณจะเบือนหน้าหนีและคิดในใจว่าเอาไปไกล ๆ เถอะ บางคนถึงกับหยีหน้าหยีตา

พฤติกรรมแบบนี้เป็นพฤติกรรมที่ติดตัวคนเรามาจากประสบการณ์ส่วนตัวที่คนเราเรียนรู้มา มันเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ จนบางครั้งเราอาจจะรู้ตัวและไม่รู้ตัวก็ได้ อย่างเช่นมีใครบางคนที่ไม่ชอบเราอาจเพราะเรามีบางอย่างที่ตรงกับประสบการณ์เก่าที่เขาได้รับมาจากการถูกเลี้ยงดูของเขา

ในทางจิตวิทยาแล้วคนเรามักจะมองเห็นในสิ่งที่ตัวเองมีและไม่ชอบในสิ่งที่แตกต่างจากตัวเอง มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะไม่ชอบสิ่งที่คนอื่นทำ เพราะเราไม่ชอบบางอย่างในตัวเองเช่นกัน วันนี้เรามีทริค 4 ข้อมาแนะนำกันค่ะ

1.เข้าใจว่าเป็นเรื่องของเขา

จากที่เรารู้กันมาก่อนหน้านี้แล้วว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจากที่มีคนอคติกับคุณนั้น เกิดจากประสบการณ์เก่าของเขา การถูกเลี้ยงดูและสิ่งที่เขารับรู้มา เขาจึงแสดงออกและมีปฏิกิริยาออกมา และเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทำได้ในตอนนั้น คนเราจะกระทำและแสดงออกเท่าที่เขารู้ เขาไม่สามารถทำเกินกว่านี้ได้

2.ถ้าเราเป็นเขาเราเองก็ทำเหมือนเขา

เมื่อเรารู้แล้วว่าปฏิกิริยา อาการที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเรื่องของประสบการณ์เก่าของแต่ละคน เกิดจากโลกภายในของแต่ละคน การเลี้ยงดูที่เราต่างถูกปฏิบัติได้รับการเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน ทำให้การปฏิบัตินั้นแตกต่างกันและจงเข้าใจไว้เลยว่า ถ้าเราเป็นเขาเราเองก็ต้องทำแบบเขาเช่นกัน เพราะคนเราจะทำเกินจากที่เรารู้และการจัดการสภาวะอารมณ์ในตอนนั้นไม่ได้ แต่ทุกคนสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์และการศึกษาการทำงานของจิตใจของตัวเองมากขึ้น เมื่อเข้าใจแล้วเราจะอภัยได้มากขึ้น

3.ให้อภัยเขา

เมื่อเรารับรู้ถึงสิ่งที่ทำให้คนที่ไม่ชอบเราหรืออคติกับเราว่าเกิดจากอะไรแล้ว จากนั้นให้เราลองมองโลกผ่านมุมมองของเขา เราจะสามารถเข้าใจเขาได้มากขึ้น เข้าใจถึงการกระทำและการตัดสินใจของเขามากขึ้น หลายครั้งเราจะสงสารเขาด้วยซ้ำว่าเมื่อเราได้รับรู้ว่า เขาต้องผ่านชีวิตแบบไหนมาบ้างถึงได้แสดงพฤติกรรมแบบนี้ สิ่งนี้จะยิ่งทำให้เราเข้าใจเขา สงสาร เมตตา และให้อภัยเขามากขึ้น

4.กลับมาโฟกัสที่ตัวเราเอง

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อให้เรากลับมารักตัวเอง ศรัทธาในตัวเองมากขึ้น เมื่อสิ่งที่เราทำนั้นคือเจตนาด้านบวก ก็ขอให้เราจงภูมิใจ พอใจกับตัวเองเถอะค่ะว่าเราทำดีที่สุดแล้วและดีขึ้นได้อีก ส่วนอะไรที่เราเห็นว่าควรปรับปรุงก็จงนำมาปรับปรุง แบบนี้เราจะได้แต่สิ่งดี ๆ กลับมา ได้ทั้งการให้พัฒนาจิตใจเราก็จะเติบโตและพัฒนาตัวเองไปสู่จุดที่ดีขึ้น สู้ ๆนะคะ

ทุกคนรู้ดีว่าการที่คนไม่ชอบหรืออคติกับเรานั้นเป็นเพียงสิ่งมายา มิตรภาพที่แท้จริงต่างหากที่เป็นสิ่งที่จะหล่อเลี้ยงจิตใจมนุษย์ให้มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย และมีความสุขที่ได้เกิดมาอยู่ร่วมกัน