top of page
GDN 980 x 120 psychiatrist.jpg

10 ทักษะการสื่อสารที่จะช่วยเสริมให้ชีวิตและการทำงานของคุณประสบสำเร็จ


หนึ่งในทักษะที่นายจ้างจำนวนมากคาดหวังให้พนักงานมีก็คือทักษะการสื่อสาร (communication skills) เนื่องจากทักษะการสื่อสารเป็นทักษะที่สำคัญจำเป็นต่อการทำงานและการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น โดยเฉพาะในยุคที่ AI สามารถเข้ามาทำงานทดแทนมนุษย์ได้ในหลายตำแหน่ง หากพนักงานขาดทักษะการสื่อสารก็อาจจะทำให้ดูไม่ค่อยมีความแตกต่างไปจากหุ่นยนต์ ดังนั้น ในปัจจุบันมนุษย์จึงต้องหมั่นพัฒนาตนเองให้มีทักษะที่ AI ยังทำได้ไม่ค่อยดีนัก หนึ่งในนั้นก็คือทักษะการสื่อสาร ได้แก่


1. การฟังแบบ Active listening

หรือในบางครั้งก็เรียกว่าการฟังอย่างเห็นคุณค่า (appreciative listening) การฟังอย่างมีสติ (mindful listening) หมายถึง การตั้งใจฟังคู่สนทนาอย่างมีส่วนร่วม มีการถามคำถามกลับ ทวนความ ซึ่งการฟังแบบ Active listening มีข้อดีตรงที่มันช่วยทำให้การสนทนาเต็มไปด้วยความให้เกียรติกันและช่วยให้คุณและเพื่อนร่วมงานมีความเข้าใจกันมากขึ้น


โดยการเพิ่มทักษะการฟังเช่นนี้สามารถทำได้โดยตั้งใจฟังคู่สนทนาให้เต็มที่ หยุดใช้โทรศัพท์มือถือหรือหยุดทำอย่างอื่นระหว่างการสนทนา พร้อมกับสังเกตสีหน้า ภาษากาย น้ำเสียงของอีกฝ่าย และแทนที่จะคุยเพื่อพูดในสิ่งที่คุณอยากจะพูดก็เปลี่ยนเป็นฟังอีกฝ่ายว่าเขาพูดอะไรเพื่อจะได้ตอบสนองให้สอดคล้องกับสิ่งที่อีกฝ่ายสื่อสารออกมา หรือหากฟังแล้วไม่เข้าใจก็ควรถามเพื่อจะได้เข้าใจให้ตรงกันมากขึ้น


2. การเลือกใช้วิธีสื่อสารได้อย่างถูกต้อง

มีความสามารถในการสื่อสารรูปแบบต่าง ๆ เช่น อีเมล์ จดหมาย โทรศัพท์ พบหน้า ส่งข้อความผ่านทางออนไลน์ โดยสามารถเลือกใช้รูปแบบการสื่อสารได้อย่างเหมาะสมกับคนที่ต้องการจะสื่อสารด้วย รวมถึงสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ได้ เช่น เลือกที่จะวิดีโอคอลเพื่อสื่อสารเรื่องที่มีความซับซ้อนแทนการส่งอีเมล์ 


3. ความเป็นมิตร

เช่น จริงใจ อ่อนโยนมีเมตตา สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความเข้าใจกันมากขึ้น สื่อสารกับเพื่อนร่วมงานด้วยทัศนคติที่ดี รวมไปถึงแสดงท่าทีที่เป็นมิตร เช่น ทักทาย ยิ้มแย้ม ใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เพื่อนร่วมงานเคยเล่าว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันเกิดของลูก พอเวลาผ่านไปคุณอาจก็ลองถามเขาดูว่าวันเกิดลูกที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง


4. ความมั่นใจ

ใช้ภาษากายช่วยในการแสดงถึงความมั่นใจ เช่น สบตาคู่สนทนา นั่งหลังตรงไม่ห่อไหล่ ซึ่งท่าทีที่มั่นใจแบบนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมบุคลิกในการทำงาน แต่ยังจะช่วยทำให้ดูน่าสนใจเวลาอยู่การสัมภาษณ์งานอีกด้วย 


5. การร่วมแสดงความคิดเห็น

เกี่ยวกับปัญหาอุปสรรค ผลกระทบ และแนวทางในการแก้ไขปัญหาที่นำเสนอไปหรือแนวทางที่จะช่วยเพิ่มจุดแข็งให้กับการทำงานของทีมได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงจดโน้ตเอาไว้ว่าคนอื่นมีความคิดเห็นยังไงบ้างและนำส่วนที่ช่วยสะท้อนให้เห็นจุดที่คุณต้องพัฒนามาปรับใช้


6. ใช้ระดับเสียงที่เหมาะสม

การปรับระดับและการเลือกน้ำเสียงให้เหมาะสมถือเป็นทักษะอย่างหนึ่ง เวลาพูดให้ใช้ระดับเสียงที่คนอื่นได้ยินชัดเจนแต่ต้องไม่ดังจนคนอื่นรู้สึกว่าถูกตะคอกใส่ รวมถึงการใช้เสียงสูงเสียงต่ำ การเน้นบางคำในประโยค การเลือกใช้คำพูด ก็มีผลต่อความรู้สึกของคู่สนทนาด้วยเหมือนกัน


7. Empathy

การมี Empathy ไม่ได้หมายถึงแค่การเข้าใจคนอื่นแต่มันรวมถึงความสามารถในการแชร์ความรู้สึกกับคนอื่นได้ด้วย เพื่อให้คุณสามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสมในเวลาที่สื่อสารกับคนอื่น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเห็นใครกำลังอารมณ์เสียอยู่ การที่คุณมี Empathy คุณก็อาจจะเข้าไปช่วยรับฟังเรื่องที่เขาอยากจะระบาย หรือถ้าเห็นใครกำลังอารมณ์ดีก็อาจจะเป็นโอกาสดีในการเข้าไปแชร์ไอเดียในการทำงานกับเขา


8. ให้เกียรติผู้อื่น

มีหลายวิธีด้วยกันในการแสดงออกถึงการให้เกียรติผู้อื่น เช่น ไม่พูดแทรกหรือขัดจังหวะทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ ไม่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาไปกะทันหัน พูดคุยถามตอบเกี่ยวกับสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังพูดอยู่ด้วยความสนใจ 


9. มีความเข้าใจภาษากาย

ความหมายส่วนหนึ่งของการสื่อสารจะแฝงอยู่ในภาษากาย การแสดงสีหน้าแววตา ขณะเดียวกันก็ไม่ตัดสินคนอื่นโดยอ่านจากภาษากายเพียงอย่างเดียวเพราะบางครั้งคนต่างวัฒนธรรมหรือมีความสามารถในการแสดงภาษากายไม่เท่ากันก็อาจจะมีภาษากายที่ไม่เหมือนกัน


10. ความสามารถในการตอบสนอง

เช่น ความคล่องแคล่วว่องไวในการรับโทรศัพท์หรือตอบอีเมล์ ไหวพริบในการเลือกระยะเวลาในการตอบสนอง เช่น ถ้าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนต้องใช้เวลาหาข้อมูลก็อาจจะไม่ต้องตอบโดยทันทีแต่แจ้งว่าจะติดต่อกลับไปแจ้งข้อมูลในภายหลัง 


โดยสรุป ทักษะการสื่อสารถือเป็นทักษะที่สำคัญโดยเฉพาะในการทำงาน เพราะนอกจากมันจะทำให้งานดำเนินไปอย่างราบรื่นแล้วมันยังมีผลต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานอีกด้วย ซึ่งความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานก็มีผลต่อความร่วมมือเพื่อให้งานบรรลุตามเป้าหมาย ดังนั้น แม้ว่าคุณจะเป็นคนที่เก่งด้าน hard skills มากแค่ไหน แต่หากคุณขาดทักษะการสื่อสารก็อาจจะส่งผลให้การทำงานเป็นไปอย่างไม่ราบรื่นได้ จึงไม่ควรที่จะละเลยทักษะการสื่อสารรวมถึงทักษะ soft skills อื่น ๆ เพื่อเสริมให้ชีวิตและการทำงานของคุณประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง 


หากคุณสนใจ Workshop ทักษะทางด้านเทคนิคจิตวิทยาที่จะช่วยเสริม soft kills เพื่อปรับใช้ในชีวิตและการทำงานของคุณให้ดีขึ้นในทักษะทางด้านการฟัง การพูด และเทคนิคเฟรมเวิร์คต่างๆ ทางด้านจิตวิทยาสามารถดูรายละเอียดคอร์สจิตวิทยาจากทาง iSTRONG ได้ที่นี่ คอร์สนักให้คำปรึกษา หลักสูตรประกาศนียบัตรที่ iSTRONG 

 

iSTRONG Mental Health

ผู้ดูแลสุขภาพใจให้กับบุคคล ครอบครัว และองค์กร


บริการของเรา

สำหรับบุคคลทั่วไป

  • บริการปรึกษา จิตแพทย์และนักจิตวิทยา : http://bit.ly/3lmThUa  

  • คอร์สฝึกอบรมทักษะด้านจิตวิทยา : http://bit.ly/3RQfQwS 

สำหรับองค์กร

โทร. 02-0268949 หรือ Line : @istrong

 

บทความที่เกี่ยวข้อง


อ้างอิง:

[1] 10 Communication Skills for Your Life and Career Success. Retrieved from https://www.indeed.com/career-advice/resumes-cover-letters/communication-skills

 

ประวัติผู้เขียน

นิลุบล สุขวณิช (เฟิร์น) มีประสบการณ์ทำงานเป็นนักจิตวิทยาการปรึกษาในมหาวิทยาลัยและเป็นวิทยากรเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต/การพัฒนาตนเองให้แก่นักศึกษาเป็นเวลา 11 ปี ปัจจุบันเป็นแม่บ้านในอเมริกาที่มีความสนใจเกี่ยวกับ childhood trauma และยังคงมีความฝันที่จะสื่อสารกับสังคมให้เกิดการตระหนักเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิต 

Nilubon Sukawanich (Fern) has work experiences as a counseling psychologist and speaker in university for 11 years. Currently occupation is a housewife in USA who keep on learning about childhood trauma and want to communicate to people about mental health problems awareness. 


Comentarios


facebook album post - square (1).png
1.พวกหลีกเลี่ยงความผูกพัน (2).png
บทความล่าสุด
bottom of page