3 วิธีช่วยคุณจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์เชิงลบได้อย่างง่ายดาย

ความรู้สึก เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ทุกคน เมื่อมีสิ่งภายนอกมากระทบกับจิตใจของเรา

ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกดีใจ มีความสุข เศร้า เสียใจ ตื่นเต้น และอื่นๆ อีกมากมาย

ความรู้สึกบางความรู้สึก ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและใจของเรา เช่น ความรู้สึกมีความสุข และเบิกบาน แต่อย่างไรก็ตามมนุษย์ทุกคนหลีกหนีเรื่องที่เกิดขึ้นและทำให้เราไม่พอใจ ไม่ชอบใจ และเป็นทุกข์ ซึ่งส่งผลให้เรา รู้สึก โกรธ เสียใจ หรือเศร้าใจไม่ได้ การจมอยู่ในความรู้สึกและอารมณ์เชิงลบเป็นเวลานาน ส่งผลต่อปัญหาสุขภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคซึมเศร้า ที่เกิดขึ้นกับคนเมืองเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน

คุณทราบหรือไม่ว่า อันที่จริงเราสามารถจัดการกับความรู้สึกของเราได้? นักจิตวิทยาเจ้าของหนังสือ

“Emotional First Aid: Healing Rejection, Guilt, Failure, and Other Everyday Hurts” และ

อื่นๆ อีกมากมาย Mr.Guy Winch ได้กล่าวถึงวิธีการจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์เชิงลบของเราไว้ 3 วิธีหลักๆ ซึ่งแพรคิดว่า เป็นประโยชน์อย่างมาก และอยากนำมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันในวันนี้ค่ะ

1.​ การเบี่ยงเบนความสนใจ (Distraction)

วิธีนี้เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเรา จากสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ไปยังสิ่งอื่น ตัวอย่างเช่น ในช่วงเวลาที่เรากำลังอกหัก เป็นทุกข์กับความรัก รู้สึกเศร้าใจ และคิดถึงคนรักเก่าเรื่องราวเก่าๆ แทนที่เราจะนั่งจมอยู่กับความรู้สึกนั้น ใช้พลังของเราไปกับเรื่องนั้นๆ ที่ไม่ได้ส่งผลดีให้กับชีวิตของเราในระยะยาวให้เรา ใช้เวลานั้นไปกับเรื่องอื่นๆ เช่น งานที่มีกำหนดใกล้ส่ง หรือ project อะไรสักอย่างที่เราอยากทำมานานแล้วแต่ไม่ได้ทำ ใช้พลังงานนั้น

โฟกัสไปกับเรื่องอื่นๆ แทนที่จะจมอยู่กับความเศร้า ซึ่งเป็นวิธีที่แพรมักใช้เสมอๆ เช่นกันค่ะ

2. การกดความรู้สึกนั้นเอาไว้ (suppression)

วิธีการนี้ทำได้โดยไม่แสดงออกเมื่อเรารู้สึกนั้นๆ ตัวอย่างเช่น เมื่อเรารู้สึกเสียใจ แต่เราไม่แสดงออก แต่กดมันเอาไว้ ซึ่งอาจจะเป็นวิธีที่ใช้ได้ในระยะสั้นๆ เพื่อการเลือกตอบสนองต่อสถานการณ์ในเชิงบวก แต่ไม่กดความรู้สึกนั้นๆ ไว้ในระยะยาว เพราะอาจมีผลต่อสุขภาพจิตของเราได้

3. การเปลี่ยนมุมมองต่อเรื่องที่เกิดขึ้น (Reappraisal or reframing)

จากการศึกษาเป็นจำนวนมาก ค้นพบว่า วิธีการนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์เชิงลบโดยการทำได้โดยพยายามมองหามุมมองต่อเรื่องที่เกิดขึ้นกับเราใหม่

ในเชิงบวก โดยสามารถใช้คำถามเหล่านี้เพื่อหามุมมองใหม่ๆ ได้แก่

1. ข้อดีที่เกิดกับเราจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นคืออะไร

2. เราจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสในชีวิตของเราได้อย่างไร

3. สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หากเรามองเรื่องที่เกิดขึ้นในมุมใหม่

4. มีโอกาสอะไรบ้าง ที่เราจะได้จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

การเปลี่ยนมุมมองของเราต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในด้านดี จะช่วยทำให้เราเห็นโอกาสต่างๆ มากมายจากสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าเรื่องราวอะไรก็ตาม มักจะมีสองด้าน เกิดขึ้นเสมอ ขึ้นอยู่กับว่า เราจะมองเห็นมันหรือไม่ ตัวอย่างเช่น การต้องเลิกกับคนที่เรารัก อาจทำให้เรารู้สึกเสียใจ เป็นทุกข์ใจ เราอาจมองในแง่ดี ในแง่มุมที่ เป็นโอกาสที่เราจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำมานานแล้ว ใช้พลังงานและความสามารถ ในการดูแลและพัฒนาตัวเอง ได้รับบทเรียนที่มีค่า ที่จะทำให้เรามีชีวิตใหม่ที่ดีขึ้น ได้พบกับคนรักใหม่ที่ตรงกับความต้องการของชีวิตที่เราอยากได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น

การที่คนเราเชื่อว่า เราสามารถจัดการกับความรู้สึกและอารมณ์เชิงลบของเราได้ จะทำให้คนๆ นั้น มีความเสี่ยงต่อโรคทางจิตใจน้อยกว่า คนที่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปโดยไม่ลุกขึ้นมาจัดการกับสิ่งๆ นั้น ซึ่งสิ่งเดียวที่เราสามารถจัดการได้ คือ ตัวของเรา ใจของเรา

ไม่ว่าความทุกข์หรือความสุขเกิดที่ใจของเรา เพียงแค่ปรับมุมมองให้ถูกต้องเท่านั้นเองค่ะ