7 วิธีบำบัดใจเพื่อป้องกันโรคซึมเศร้า
เพื่อป้องกันโรคซึมเศร้าที่อาจเกิดตามมาหลังจากความเศร้าจากการสูญเสีย ขอเสนอแนวทางในการปฐมพยาบาลใจของคุณเองเบื้องต้นด้วย 7 วิธีบำบัดใจตัวเองดังนี้ค่ะ
1. ร้องไห้ออกมา หากคุณอยากร้องไห้ จำไว้ว่าคุณไม่จำเป็นต้องสะกดกลั้นความรู้สึกเศร้า ซึ่งการร้องไห้จะเป็นวิธีการบำบัดจิตใจให้ดีขึ้น
2. ยอมรับความจริง ว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งหากคิดตามหลักตรรกะแล้ว การจะทำให้ชีวิตเดินหน้าต่อไป คือ การพยายามโฟกัสที่การหาวิธีเดินหน้าต่อไป
3. ลดการเสพข่าวเศร้าเกี่ยวกับการสูญเสียนั้นให้มากที่สุด เพราะหากคุณยังเปิดหน้าเฟซบุ๊คหรือเสพสื่อที่เห็นแต่ข่าวการสูญเสีย และเรื่องราวเศร้าซ้ำๆ จะยิ่งทำให้ความรู้สึกของคุณดิ่งลงไปเรื่อยๆ หากปล่อยไว้นานเกินไป อาจจะทำให้คุณดึงตัวเองขึ้นมาได้ยากขึ้น (อ่านบทความ 4วิธีป้องกันใจไม่ให้ซึมเศร้าจากข่าวดราม่า )
4. หาทางระบายออกมาในทางสร้างสรรค์ เช่น การเขียนบันทึก การพูดแล้วบันทึกเสียงของตัวเองไว้ การวาดภาพระบายสี การเล่นดนตรี เล่นกับสัตว์เลี้ยง เป็นต้น
5. ใช้ชีวิตด้านอื่นๆ บ้าง คุณไม่ควรรู้สึกผิดหากคุณจะทำงาน ออกไปเดินช้อปปิ้ง หาอาหารอร่อยๆ รับประทาน หรือฟังเพลงที่มีอารมณ์สนุกสนาน เพราะเป็นการป้องกันจิตใจตัวเองไม่ให้ดิ่งลงไปมากกว่านี้ (อ่านบทความ 10 เทคนิคจัดการความรู้สึกด้านลบให้อยู่หมัด)
6. พูดคุยกับใครซักคน หรือกลุ่มคนที่คุณไว้ใจ ช่วยกันปลอบโยนซึ่งกันและกัน แต่ควรระวังการพูดคุยที่พากันดึงความรู้สึกของกันและกันดิ่งลงไปซ้ำอีก
7. หากเริ่มสังเกตตัวเองว่ามีอาการทางกาย เช่น นอนไม่หลับ หลับไม่สนิท หลับๆ ตื่นๆ ผวา เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย รู้สึกไม่มีแรง ขาดพลัง ไม่อยากลุกไปทำอะไร หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายขึ้น หยุดร้องไห้ไม่ได้ หรือร้องไห้ง่ายเวลาที่ถูกอะไรสะกิดหรือสะเทือนอารมณ์ หรือแม้กระทั่งเริ่มคิดถึงการตาย ให้รีบมองหาความช่วยเหลือ เช่น จิตแพทย์ นักจิตบำบัด กรมสุขภาพจิต
การสูญเสียบุคคลหรือสิ่งของที่คุณรู้สึกผูกพันมานานนั้น เป็นเรื่องธรรมดาที่คุณจะรู้สึกเศร้า เสียใจ แต่อย่าปล่อยให้อารมณ์เหล่านี้อยู่นานเกินไปค่ะ เพราะชีวิตต้องเดินต่อไป คุณยังมีภารกิจ และคนที่อยู่ข้างหลังอีกมากมายที่ต้องการพลังใจและการดูแลจากคุณอยู่
ศูนย์ให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตและครอบครัว
iStrong บริการให้คำปรึกษาโดยนักจิตวิทยาที่มีใบรับรอง สามารถเลือกคุยทางโทรศัพท์หรือคุยแบบพบหน้า
Contact : https://www.istrong.co/service
*รวบรวมและสรุปข้อมูลมาจาก http://www.webmd.com
Comments